ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี แล้วยี่ห้อไหนตอบโจทย์เราบ้าง
ใครที่สนใจจะฉีดฟิลเลอร์น่าจะทราบกันดีว่าฟิลเลอร์มีให้เลือกฉีดกันอยู่หลายยี่ห้อ หนึ่งในนั้นอาจมี Neuramis อยู่ในลิสต์ด้วยเพราะถึงแม้จะเป็นแบรนด์ฟิลเลอร์น้องใหม่ แต่ทางแบรนด์ไม่ถือว่าใหม่ในวงการความงาม เพราะเป็นแบรนด์เจ้าของเดียวกับโบท็อก Neuronx ที่หลายคนน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง แต่ก่อนจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี บางคนน่าจะสงสัยว่า Neuramis ดีไหมเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ 2 แบรนด์ดังอย่าง Juvederm และ Restylane มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย
เปรียบเทียบระหว่าง Neuramis/Juvederm/Restylane
1.ความเจ็บปวด ฟิลเลอร์ที่ใช้ในไทยเกือบทั้งหมดล้วนมียาชาผสมอยู่ ยกเว้นแต่ Neuramis รุ่น Deep ซึ่งเป็นรุ่นที่ผ่านอย.ไทยและอนุญาตให้ใช้ในไทย เพราะฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ Neuramis นั้นจะรู้สึกเจ็บมากกว่า โดยปกติแล้วความเจ็บปวดจากการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ เจ็บเข็มและเจ็บจากอาการยาเดิน การเจ็บเข็มสามารถแก้ไขได้ด้วยการทายาชาบริเวณที่จะฉีด ส่วนเจ็บยานั้นต้องบรรเทาด้วยยาชาที่ผสมในฟิลเลอร์เท่านั้น ซึ่ง Neuramis Deep ไม่ผสมยาชา เพราะฉะนั้นจึงฉีดแล้วเจ็บกว่าอย่างแน่นอน
2.ประสิทธิภาพ จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง Neuramis และ Restylane พบว่าในช่วง 6 เดือนแรก ประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน
3.ระยะเวลา ฟิลเลอร์ Neuramis Deep ฉีดแล้วอยู่ได้นาน 6-8 เดือน สั้นกว่า Juvederm ทุกรุ่น(โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 12-24 เดือน) สั้นกว่าฟิลเลอร์ Restylane ในกลุ่ม Lyft และ obt แต่อยู่นานกว่า Restylane Vital Light
4.ตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการฉีด ฟิลเลอร์ Juvederm และ Restylane นั้นทำออกมาหลายรุ่น เพราะฉะนั้นจึงสามารถฉีดได้ครอบคลุมทั่วทั้งใบหน้ารวมถึงผิวหนังบางบริเวณของร่างกายด้วย เรียกว่าฉีดได้ทุกจุดแล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์ ส่วน Neuramis มีแค่ Deep เพียงรุ่นเดียว โดยเหมาะสำหรับฉีดผิวในบริเวณที่สูญเสีย Volume ไป เช่น ขมับ ร่องแก้ม คาง เป็นต้น ช่วยเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์
5.ราคา Juvederm และ Restylane ราคาอยู่ที่ 1x,xxx บาท/ซีซี โดยราคาอาจแตกต่างกันประมาณ 1,xxx-2,xxx
หลังจากอ่านกันจบแล้วก็คาดว่าจะรู้จักฟิลเลอร์กันมากขึ้น เข้าใจว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร แต่ไม่ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ก็ต้องเลือกยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทย ถ้าเสี่ยงฉีดก็เสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์แบบหิ้วที่อาจเป็นของปลอมได้นั่นเอง