เจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ร่องใต้ตา และฉีดถุงใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา

สารบัญข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาร่องตาลึก ถุงใต้ตา และใต้ตาคล้ำได้จริงหรือ?

การแพทย์ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่า ปัญหาการแก่ชรามีสาเหตุหลักมาจาก การยุบตัวของชั้นกระดูกและเนื้อเยื่อไขมันชั้นลึก การรักษาจึงต้องแก้ที่สาเหตุ สำหรับบริเวณใต้ตา ปัญหาการยุบตัวของกระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณนี้ ทำให้เห็นเป็นร่องลึก และเกิดถุงใต้ตานั่นเอง จึงไม่แปลกที่ปัญหาร่องลึก และถุงใต้ตา สามารถพบได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ เพราะเกิดจากกระดูกบริเวณโหนกแก้มและใต้ตาไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควรจะเป็น สำหรับในผู้ที่เริ่มมีอายุ เช่นอายุ 30 ปีขึ้นไป ร่องและถุงบริเวณใต้ดวงตาเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความทรุดโทรมบนใบหน้า ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาใต้ดวงตา ที่ทางการแพทย์นิยม และเลือกใช้ก็คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยในประเทศไทยถือว่าเป็นบริการอันดับต้นๆ ของคลินิกเสริมความงาม

ถุงใต้ตาคืออะไร ?

ถุงใต้ตาคือถุงไขมันที่อยู่บริเวณเปลือกตาล่างซึ่งมีอาการบวมและนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งเมื่อถุงใต้ตาบวมแล้วก็อาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัดเจน ทำให้ใบหน้าของคุณดูอ่อนล้า ไม่สดใสหรือดูอิดโรย บางคนที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ก็จะยิ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยอีกด้วย และวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วและเห็นผลทันที ก็คือการฉีดถุงใต้ตาด้วยฟิลเลอร์

ถุงใตต้า

เจาะลึกสาเหตุและปัญหาถุงใต้ตา

ร่องและถุงใต้ตาสามารถพบได้แม้ในผู้ที่อายุน้อย เช่น 15-20 ปี สืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตที่ไม่ดีของกระดูกโหนกแก้ม และกระดูกเบ้าตาล่าง ทําให้ไม่มีตัวค้ำยันเนื้อเยื่อใต้ตา จึงเกิดการยุบและดึงเอาถุงไขมันใต้ลูกตาออกมาที่เรียกว่า ‘Pseudo-herniation of intra-orbital fat’ หรือ ‘สภาวะเสมือนไส้เลื่อนของถุงไขมันในเบ้าลูกตา’ นอกจากนี้ยังพบว่าในบางรายกล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis Oculi) ในส่วนที่ปิดเบ้าตา (Palpebral part) ยังบางผิดปกติทําให้ไม่สามารถปิดกั้นถุงไขมันไม่ให้ป่องออกมาได้

ถุงใต้ต้า

สําหรับในวัยกลางคนเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นจะเริ่มเห็นร่องใต้ตาและถุงใต้ตา เมื่อกระดูกเบ้าตาและเนื้อเยื่อไขมันชั้นลึกบริเวณใต้ตา (SOOF) เริ่มฝ่อตัว ซึ่งเราสามารถพบร่องใต้ตาในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปได้แทบทุกคน และเมื่ออายุมากขึ้นร่องลึกยิ่งมากขึ้น และถุงใต้ตาก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นตามมา สภาพเหล่านี้ทําให้ใบหน้าดูทรุดโทรมดูเหมือนคนนอนดึก นอนไม่อิ่ม หรือมีโรคประจําตัว เป็นต้น

ถุงใต้ตามีทั้งแบบแท้ และแบบเทียม

สำหรับปัญหาถุงใต้ตา แท้จริงสามารถเกิดได้หลายต่อหลายสาเหตุ ทั้งอายุที่มากขึ้น รวมไปถึงการนอนพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ และการกินอาหารที่ทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งคนที่ต้องการรักษาถุงใต้ตา จะต้องพิจารณาว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาของตนเองเสียก่อนว่ามาจากสิ่งใดกันแน่ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการรักษาอย่างถูกต้องและตอบโจทย์ให้ได้มากที่สุด

ปัญหาถุงใต้ตาแท้ จะเป็นถุงที่ป่องและนูนบริเวณใต้ตา ซึ่งไขมันจะมารวมกันบริเวณใต้ตาทำให้เกิดการคั่งน้ำและบวม นอกจากนี้ปัญหาถุงใต้ตายังเกิดจากถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อย ทำให้ไขมันเคลื่อนตัวลงมาตามผิวหนังที่เสื่อมสภาพนั่นเอง

ปัญหาถุงใต้ตาเทียม ปัญหานี้เกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น บ่อยครั้งที่เกิดจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขยี้ตา การร้องไห้ การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การใช้สายตาที่มากเกินไปและการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ นอกจากนี้อาจยังมีเรื่องของระบบไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีเท่าที่ควร รวมทั้งการบวมน้ำบริเวณใต้ตาก็ได้เช่นกัน

แนวทางการรักษาถุงใต้ตา

การรักษาสามารถแบ่งได้ 2 แบบคือการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด

แก้ร่องใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา

1. การผ่าตัด

เป็นวิธีการรักษาที่นิยมในอดีต เพราะคนส่วนใหญ่รวมถึงแพทย์เองก็คิดว่าการผ่าตัดจะแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่กลับพบว่ามีผลข้างเคียงตามมามากมาย ทั้งรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด ปัญหาใต้ตาแหกอ้าหลังผ่าตัดเป็นต้น ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาแล้วแก้ไขยากมาก บางรายหลังผ่าตัดถึงไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่เรียบเนียนยังอาจมีร่องใต้ตาหลงเหลืออยู่ ซึ่งก็ต้องกลับมาฉีดฟิลเลอร์แก้อีกที

ฉีดถุงใต้ตา

2. การรักษาแบบไม่ผ่าตัดมีหลายวิธี ดังนี้

2.1 การใช้เครื่องมือ

เครื่องเลเซอร์ที่กระตุ้นให้ผิวหดรัด และยกกระชับ เช่น คลื่นวิทยุ หรือ อัลตราซาวด์พลังงานสูง เป็นต้น บอกได้เลยว่าเครื่องมือเหล่านี้แทบไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย เนื่องจากไม่ได้แก้ปัญหาการยุบตัวของกระดูกและชั้นไขมันชั้นลึกใต้ดวงตา (SOOF)

2.2 การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ส่วนใหญ่ของการฉีดถุงใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ จะเน้นที่การแก้ไขการยุบตัวของเนื้อเยื่อด้านล่าง แต่การแก้ไขถุงใต้ตาและการหย่อนคล้อยยังทําได้ไม่ดีนัก เนื่องจากกายวิภาคบริเวณรอบดวงตามีความละเอียดอ่อน และแพทย์ที่ทําการฉีดต้องมีความชํานาญอย่างมากที่จะรู้ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นจะช่วยแก้ไขการยุบตัวบริเวณไหนและมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือก ชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม มิเช่นนั้นนอกจากไม่ช่วยแล้วยังเพิ่มปัญหาถุงใต้ตาอีกด้วย ดังนั้นจึงพบว่าแพทย์ส่วนใหญ่จะปฏิเสธการฉีดฟิลเลอร์หากคนไข้มีถุงใต้ตาหรือมีผิวหนังหย่อนคล้อยร่วมด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตา

2.3 การร้อยไหมใต้ดวงตา

การร้อยไหมใต้ดวงตาจะช่วยให้มีการกระชับผิวให้ตึงขึ้น และช่วยลดถุงใต้ตาได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาการยุบตัวของเนื้อเยื่อด้านล่าง ดังนั้นจึงต้องทำการรักษาควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเท่านั้น จึงสามารถแก้ปัญหาได้แท้จริง ซึ่งก็คล้ายกับการผ่าตัดเอาถุงไขมันออกแล้วเย็บผิวให้ตึงนั่นเองแต่ร่องบุบก็ยังอยู่ ถ้าไม่ฉีดฟิลเลอร์ไปเติมเต็มร่องลึก

Line icon 1
AIC Facebook

ฉีดถุงใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ ช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำร่องริ้วรอยลึก

การฉีดถุงใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดี สำหรับใครหลายคนที่มีกล้องตาลึกใต้ตาคล้ำเห็นริ้วรอยอย่างชัดเจน ทั้ง ๆ ที่เรานั้นอายุยังน้อยมาก เพราะอาจจะทำให้เรานั้นหน้าโทรมได้ แถมยังน่าดูแก่ก่อนวัย และปัญหาของการเกิดร่องใต้ตานี้ก็ไม่ว่าจะเป็นเกิดจากอายุมากขึ้นเกิดจากใต้ตาเริ่มหย่อนคล้อยล่องตาเป็นถุงใต้ตาอย่างชัดเจนที่ขนาดใหญ่จนเกินไป

ฉีดใต้ตา

ซึ่งก็มีวิธีช่วยแก้ไขได้อย่างรวดเร็วนั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตาเลือกคลินิกที่ดี และเหมาะที่ได้มาตรฐาน รับรองได้เลยว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้กับเราได้อย่างรวดเร็ว ทันใจอย่างแน่นอน ซึ่งการฉีดใต้ตาจะเห็นผลทันทีที่เราได้ฉีด โดยที่เราไม่ต้องผ่าตัดใดๆ เจ็บตัวน้อยมากๆ และเราสามารถที่จะมาเติมได้เรื่อย ๆ แถมก็ยังไม่ได้มีราคาแพง ถ้าหากเราอยากได้ใบหน้าที่เป๊ะปัง แต่งหน้าออกมาแล้วสวย แนะนำเป็นการฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตากันได้เลย

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณถุงใต้ตา

1.คุณจะได้เห็นผลลัพธ์หลังจากการ ฉีดถุงใต้ตา ทันทีเลยว่าบริเวณใต้ตาดูดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งในช่วงแรกแม้ว่าจะยังไม่เข้าที่มากนักแต่เนื้อฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มในทันที จะค่อยๆดีขึ้น และจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างชัดเจนมากที่สุด หลังจากนั้นแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าใต้ตามีความสดใส ความหมองคล้ำน้อยลง ไม่มีถุงใต้ตามารบกวนใจ เรียกได้ว่าสวยทันใจ ไม่ต้องใช้เวลานาน

2.กฟิลเลอร์แท้ร้อยเปอร์เซนต์นั้นจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในผิวหนังอีกด้วยนะ การันตีว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของคนเราอย่างแน่นอน

เติมใต้ตา ที่ไหนดี

3.สำหรับใครที่กลัวการผ่าตัดไม่อยากเจ็บตัวมาก ขอแนะนำเลยว่าการ ฉีดถุงใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์นั้นจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแน่นอน เนื่องจากใช้เวลาในการฉีดเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นก็สวยได้ทันทีเลย และสามารถกลับบ้านได้เลยไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นค้างคืนแต่อย่างใด เรียกได้ว่าใช้เวลาน้อย แผลเล็กนิดเดียวเพราะใช้เพียงแค่เข็มฉีดเท่านั้น อีกทั้งฟื้นตัวได้ไว สวยได้เร็วไม่ต้องรอนาน

4.การใช้ฟิลเลอร์ ฉีดถุงใต้ตา ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างมาก และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีความน่าพึงพอใจหลักจากการฉีด และราคาไม่แพงมากจนเกินไป จึงทำให้สาวๆคนไหนก็ตามที่อยากสวย มีบริเวณรอบดวงตาที่สดใสสามารถเข้าถึงความงามแบบนี้ได้ง่ายมาก เพราะ Filler ที่ดีมีมาตรฐาน ยอมรับจาก อย. จะมีความปลอดภัยสูง และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณถุงใต้ตา

ปัญหาในการ ฉีดถุงใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์มักจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล นั่นก็คืออาจทำให้ผิวมีความช้ำง่าย มีอาการบวมหรือแดง ไปจนถึงมีผิวที่เขียวช้ำได้ สิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีผิวบาง เพราะฉะนั้นแล้วหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสในการบริเวณนั้นๆคือใต้ตา ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเองประมาณภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าหากสังเกตดูแล้วว่าไม่มีท่าทีดีขึ้นก็ควรมาพบแพทย์โดยด่วน

ฉีดฟิลเลอร์แบบ Virgin Eyes Lift เทคนิคพิเศษที่แก้ปัญหาร่องลึก-ถุงใต้ตา

เป็นการฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูงเพื่อแก้ปัญหาใต้ดวงตาให้กลับมาดูสดใสอ่อนวัย โดยสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งร่องใต้ตา ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา และการหย่อนคล้อย โดยมีหลักการดังนี้

แก้การยุบตัวของเนื้อเยื่อด้านล่างโดยการฉีดฟิลเลอร์เนื้อหนักลงไปสองตําแหน่งคือ ที่ขอบกระดูกเบ้าตา และที่เนื้อเยื่อชั้นลึกใต้ดวงตา เพื่อค้ำยันและช่วยดันถุงไขมันไม่ให้ปลิ้นออกมา ทั้งนี้จําเป็นต้องเลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ให้เหมาะสมด้วย เพราะฟิลเลอร์บางยี่ห้ออาจดูดน้ำมากทําให้ใต้ตาบวมหลังฉีด และต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่เนื้อเจลประกอบด้วย HA อนุภาคใหญ่ (Largeparticle HA gel) ที่มีขนาดเท่าๆ กัน เพื่อทําให้การค้ำยันบริเวณกระดูกทําได้ดีกว่า และคงรูปอยู่ได้นานกว่า ส่วนการแก้ริ้วรอยและการหย่อนคล้อยของผิวหนังใต้ดวงตาโดยฉีดฟิลเลอร์ชั้นตื้น คือฉีดเข้าใต้ผิวหนังโดยตรง จึงต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดพิเศษ เนื้อนิ่ม ชนิดที่เนื้อเจลประกอบด้วย HA อนุภาคเล็กมาก (Very small-particle HA gel) ที่มีขนาดเท่าๆ กัน ขั้นตอนนี้สําคัญมากเพราะหากใช้ฟิลเลอร์ผิดชนิดจะทําให้ใต้ตาบวมตุ่ยขึ้นและแย่ลง เนื่องจากฟิลเลอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีอนุภาคเล็กและไม่เกาะตัวเป็นก้อน (Low cohesiveness) จึงสามารถกระจายตัวใต้ผิวได้ดี โดยเฉพาะผิวหนังใต้ดวงตาที่บางมาก นอกจากนี้มันยังสามารถช่วยให้ผิวอุ้มน้ำสร้างความชุ่มชื่นได้ยาวนาน ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ริ้วรอยและผิวหนังที่บอบบางหย่อนคล้อยใต้ดวงตาก็จะค่อยๆ ฟูหนาขึ้น

ข้อจํากัดและผลข้างเคียงหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?

การฉีดฟิลเลอร์แบบนี้แทบไม่พบผลข้างเคียง หากรักษาโดยแพทย์ที่ชํานาญ ปัญหาที่พบบ่อยคือ อาจมีรอยเขียวช้ำได้หลังการรักษา แม้จะใช้เข็มปลายทู่ก็ตาม และบางรายอาจมีอาการบวมของใต้ตาได้เล็กน้อยนาน 1-2 สัปดาห์ สําหรับผู้ที่มีริ้วรอยมากและร่องลึกมาก อาจจําเป็นต้องเติมฟิลเลอร์เพิ่มเล็กน้อย ในช่วง 3-6 เดือนหลังการรักษาครั้งแรก และรายที่ผิวหย่อนมาก การร้อยไหมบริเวณใต้ตาก็จะทำให้ผลการรักษาดีขึ้น

ใต้ตาบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณถุงใต้ตา เจ็บแค่ไหน ?

โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะบริเวณไหนก็ตาม แพทย์จะทำการแปะยาชา หรือฉีดยาชาให้กับเราก่อนที่จะทำหัตการอยู่แล้ว ทำให้ลดความเจ็บปวดไปได้มากพอสมควร ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลไปว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะทำเจ็บปวด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?

ริ้วรอยแห่งวัย เช่น ฉีดร่องใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ หรือฉีดถุงใต้ตา แต่การฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สำคัญนั้นคือฟิลเลอร์ที่ใช้ควรได้มาตรฐาน อย. เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย แล้วฟิลเลอร์ตัวไหนบ้างที่ผ่านอย. ลองมาดูรายชื่อฟิลเลอร์ที่ได้รับอย. ในปี 2022 กันเลยค่ะ ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เช็คลิสต์อย. ได้เลย

1.Restylane ฟิลเลอร์ยี่ห้อดังจากสวีเดนที่ได้รับการยอมรับมานาน ปัจจุบัน Restylane ผลิตออกมาหลายรุ่นในตลาด ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีลักษณะโมเลกุลที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะกับการใช้ในแต่ละพื้นที่ผิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์แพร่หลายทั่วโลก จึงค่อนข้างมั่นใจได้ว่าดีและมีมาตรฐาน แต่ก็มีของปลอมแปลงเยอะ ต้องระวังให้ดีเช่นกันเพราะบางรุ่นปลอมแม้กระทั่งกล่องบรรจุภัณฑ์ก็มี

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

2.Juvederm ฟิลเลอร์ค่ายอเมริกาที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ความงามหลายท่านทั่วโลก มีหลายรุ่นให้เลือกใช้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละส่วน ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ค่อนข้างมีปลอมเยอะเช่นกันต้องระวังให้ดีทุกครั้งก่อนจะใช้ต้องตรวจสอบ หรือไม่ก็หาคลินิกที่ไว้ใจได้ว่าใช้ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมายและไม่หมดอายุ ฉีดใต้ตาคล้ำยี่ห้อไหนดี Juvederm ก็มีความปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

3.Belotero ฟิลเลอร์ยี่ห้องดังจากสวิตเซอร์แลนด์ที่นำเข้ามาใช้ฉีดถุงใต้ตาในไทย มีแพทย์หลายคนให้ความเชื่อมั่นในคุณสมบัติที่ดีเหมาะสมกับราคา มี 4 รุ่นที่ได้รับมาตรฐานอย. ในไทย คือ Volume, Soft, Balance, Intense

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

4.Revanesse Ultra ฟิลเลอร์จากแคนาดาที่มีคุณสมบัติคงตัวค่อนข้างดีและได้รับความเชื่อถือพอสมควรสำหรับการปั้นรูปหน้าให้ได้ดั่งใจ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

5.Neuramis อีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ในไทยและต่างประเทศกับฟิลเลอร์จากเกาหลีที่โด่งดังมาช้านาน ราคาไม่แรงมากนักและคุณภาพค่อนข้างดี มีสามรุ่นคือ Deep, Deep Lidocaine และ Volume Lidocaine ซึ่งสองรุ่นหลังจะผสมยาชา Lidocaine เข้ามาด้วยนั่นเอง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

6.e.p.t.q ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีที่แพทย์ให้ความไว้ใจ ใช้งานง่ายและค่อนข้างราคาไม่แรง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

7.YVOIRE ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีที่ได้รับรองมาตรฐานอย. เกรดพรีเมี่ยมที่เกาหลีใช้กันมานานเพื่อปรับรูปทรงหน้าให้เหมาะสม

YVOIRE

ครบทั้งหมดเจ็ดยี่ห้อที่ปัจจุบันได้รับการรับรองมาตรฐานจากอย. ว่าใช้งานได้ไม่ทำให้เกิดผลเสียกับใบหน้า หากใครสนใจ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดถุงใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ ก็ลองดูว่ายี่ห้อที่จะฉีดนั้นอยู่ในลิสต์นี้หรือไม่และมีที่มาจากไหน เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีที่สุด เลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่มี อย.ได้เลย  

รีวิวเคสฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตา

บทสรุป

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่าง อาทิเช่น แก้ร่องใต้ตา ลดปัญถุงใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยบริเวณใต้ตา ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ สำหรับใครที่กำลังจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็น ข้อดี-ข้อเสีย ยี่ห้อฟิลเลอร์ ผลข้างเคีย และข้อปฏิบัติต่างๆ รวมถึงการเลือกคลินิก หรือแพทย์ที่จะทำหัตถการจะต้องมีใบรับรอง และใบอนุญาตประกอบกิจการ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยกับตัวเรา และผลลัพธ์การทำหัตถการที่ดีที่สุดนั้นเอง