บอกลารอยใต้ตา ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลายคนคงรู้สึกตกใจใช่หรือไม่ เมื่อส่องกระจกแล้วเห็นรอยย่นบริเวณใต้ตาที่มาเยือน โดยริ้วรอยใต้ตาทำให้แก่กว่าวัยและทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย หลายคนจึงรู้สึกกังวลใจว่าบกพร่องในการดูแลตัวเองหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วรอยย่นใต้ตา สามารถเกิดขึ้นได้หลายต่อหลายปัจจัย การดูแลริ้วรอยใต้ตาที่ไม่ตรงจุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามต้องการ

 

ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากอะไรได้บ้าง

ก่อนที่จะเริ่มต้นรักษาริ้วรอยใต้ดวงตา ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหานี้ เพื่อที่จะหาวิธีฟื้นฟูริ้วรอยได้อย่างตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพนั่นเอง

1.อิลาสตินและคอลลาเจนเสื่อมสภาพ

คอลลาเจนและอิลาสติน ถือเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน ยืดหยุ่น ซึ่งเมื่ออายุมากกว่าเดิม การผลิตโปรตีนเหล่านี้จะลดลงไปอย่างสังเกตเห็นได้ชัดเจน ผิวจึงหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่าย ยิ่งหากบริเวณใต้ตาที่มีผิวบางอยู่แล้ว ก็จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนกว่าที่อื่นๆ นั่นเอง บางคนต้องการเห็นผลเร็วก็อาจจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ แต่ก็ต้องพิจารณาให้ดีว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

2.กรรมพันธุ์

สำหรับลักษณะโครงหน้าของบางคน ความหนาของผิว รวมถึงจุดที่เกิดริ้วรอยมักมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมมากกว่าสาเหตุอื่นๆ และหากว่าพ่อแม่หรือญาติของคุณมีริ้วรอยใต้ตาแบบชัดเจน คุณเองก็อาจจะมีแนวโน้มแบบนั้นเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีการดูแลผิวที่ดีจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล

3.พักผ่อนไม่เพียงพอ

การอดนอน การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลโดยตรงต่อผิวที่อยู่บริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดถุงใต้ตา รอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา เพราะว่าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่สามารถซ่อมแซมผิวได้ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งไปเร่งกระบวนการทำให้ผิวเสื่อมได้นั่นเอง

4.ความเครียด

ความเครียดจะทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลเสียต่อคอลลาเจนและอีลาสติน นอกจากนี้ความเครียดเองก็ยังทำให้กล้ามเนื้อที่ใบหน้าเกร็งตัว เมื่อทำบ่อยก็จะนำไปสู่การเกิดริ้วรอยถาวรได้ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าผาก หว่างคิ้ว หรือรอบดวงตาก็ตาม

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

5.แสงแดดและฝุ่นควัน

มลพิษและฝุ่น PM2.5 รวมถึงรังสียูวีจากแสงอาทิตย์จัดได้ว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่ทำร้ายผิวโดยตรง เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้ไปกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ ส่งผลให้เกิดการทำลายเซลล์ผิว และเร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของผิว ทำให้ผิวรอบดวงตาซึ่งมีความบอบบางอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบกลายเป็นริ้วรอยรอบดวงตาง่ายมากขึ้น

6.ขาดน้ำ

เมื่อร่างกายขาดน้ำจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เหี่ยวย่น เกิดเป็นริ้วรอยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวัน หรือการรับประทานอาหารที่ไม่มีสารอาหารสำคัญ จะทำให้บริเวณใต้ตามีปัญหาได้นั่นเอง

7.การดำเนินชีวิต

สำหรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ต่างก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวของคุณแก่กว่าวัย การสูบบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดหดจากตัว ทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงผิวเป็นไปได้ยาก ในขณะที่การดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และยังรบกวนการนอนหลับอีกด้วย สำหรับบางคนที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆ หรือละเลยการทาครีมกันแดด ก็จะทำให้ผิวรอบดวงตาเสียหายได้เช่นกัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

วิธีลดรอยใต้ตามีกี่วิธี อะไรบ้าง

หลังจากที่รู้แล้วว่าสิ่งใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา หลายคนอาจจะสงสัยใช่หรือไม่ว่าริ้วรอยใต้ตาแก้อย่างไร ซึ่งเรามีวิธีที่ประหยัดเงินมาฝากคุณแล้ว

1.ใช้ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของเรตินอล วิตามินซี และเปปไทด์

หลายคนอาจสงสัยใช่หรือไม่ว่าเพราะอะไรจึงควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสม 3 ส่วนนี้ คำตอบก็คือว่าเรตินอลช่วยในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเร่งการผลัดเซลล์ผิว ในขณะเดียวกันวิตามินซี ก็ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วนเป๊บไทด์จะช่วยในการเสริมความยืดหยุ่นให้กับผิวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการใช้ครีมที่มีส่วนผสมเหล่านี้เป็นประจำ ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดรอยใต้ตาอีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

2.ทาครีมกันแดดแม้ว่าวันนั้นไม่มีแดด

แดดคือปัจจัยหลักในการทำให้เกิดรอยย่นใต้ตา ดังนั้นคุณจึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 + แม้แต่วันที่อยู่บ้านก็ตาม ซึ่งการทาครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวที่บอบบางบริเวณรอบดวงตาจากรังสี UV ซึ่งสามารถทะลุผ่านหน้าต่างมาได้นั่นเอง อย่างไรก็ดีอย่าลืมเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีความอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการทาใกล้ดวงตาเพื่อลดความระคายเคือง

3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื่นจากภายใน นอกจากนี้ยังลดการเกิดริ้วรอยและรอยย่นที่บริเวณรอบดวงตา ซึ่งมาจากความแห้งกร้านของผิว ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้วขึ้นไป และเพิ่มปริมาณของน้ำในกรณีที่วันนั้นเป็นวันที่สภาพอากาศร้อน หรือเป็นวันที่คุณออกกำลังกายกาย นอกจากนี้การรับประทานผักและผลไม้ที่มีน้ำมาก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิวได้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

4 นอนหลับอย่างเพียงพอ

การนอนหลับถือเป็นวิธีลัดในการฟื้นฟูสภาพผิว เพราะในช่วงที่คุณนอน ร่างกายจะสร้างเซลล์ผิวใหม่และซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่า ดังนั้นจึงต้องนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงในแต่ละคืน และรักษาเวลาในการเข้านอนให้มีความสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้ทำงานอย่างเต็มที่สำหรับการฟื้นฟูผิวรอบดวงตา

5.ไม่ขยี้ตาแรงๆ

การขยี้ตาแรงๆ จะทำให้ผิวบอบบาง และรอบดวงตาถูกดึงและรั้งพับตัว หากว่าทำบ่อยๆ จะนำไปสู่การเกิดริ้วรอยอย่างถาวรได้ หากว่ารู้สึกคันหรือระคายเคืองที่บริเวณดวงตา ให้กดเบาๆ แทนที่จะขยี้ตา และกรณีที่ต้องเช็ดเครื่องสำอาง ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนซับกับสำลีเนื้อนุ่ม แล้วเช็ดให้เบามือเพื่อไม่ให้ดึงผิวของคุณเอง

6.ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การแก้ไขริ้วรอยรอบดวงตาสามารถทำได้แบบง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องมีเวลาพักฟื้น เนื่องจากในเทคโนโลยีการแพทย์ปัจจุบันนั้นพัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหาผิวได้แบบตรงจุด และการฉีดฟิลเลอร์ใต้ดวงตาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มอบผลลัพธ์ด้านการลดริ้วรอยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ต้องพิจารณาดูว่าจะเติมใต้ตา ที่ไหนดี เพราะเดี๋ยวนี้มีคลินิกเถื่อนมากมาย เราจึงต้องไต่ตองให้ดีๆ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถลดริ้วรอยได้อย่างไร

สำหรับโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถลดเลือนริ้วรอยได้อย่างแท้จริง เพราะว่าการทำงานของฟิลเลอร์จะช่วยในการเติมเต็มบริเวณที่มีร่องลึกหรือริ้วรอย ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนกว่าเดิม ที่สำคัญส่วนผสมของฟิลเลอร์อย่างกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ก็ยังไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนัง ปรับปรุงโครงสร้างของผิว ผลลัพธ์จึงเป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะช่วยในการเติมเต็มความอ่อนเยาว์ สดใส และทำให้ดูมีสุขภาพดีอย่างชัดเจน

 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับความเจ็บปวด

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้เข็มขนาดเล็กพิเศษ ซึ่งออกแบบมาสำหรับการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ และฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่นั้นจะมีส่วนผสมของยาชา ทำให้ลดความเจ็บปวดที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะคนที่ฉีดใต้ตาครั้งแรกจะอยู่ในระดับที่เจ็บพอทนได้ และรู้สึกตึงในช่วงแรก หลังยาชาที่อยู่ในฟิลเลอร์ออกฤทธิ์ ความเจ็บก็จะลดลงอย่างเห็นได้

 

อาการใดที่เกิดหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

รูเข็มเล็กๆ จะปิดใน 4-6 ชั่วโมง แต่อาจมีรอยเข็มหรือรอยแดงได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และสามารถหายได้เองใน 1-3 วัน

คนที่ผิวบางหรือบวมช้ำง่าย ก็สามารถเกิดรอยเขียวช้ำได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีอาการเหล่านี้หายได้เองและไม่เป็นอันตราย สามารถทายาหรือรับประทานยาที่ลดรอยช้ำได้

อาจมีอาการบวม ปวดและตึงหลังจากฉีดใต้ตา ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ปกติ แต่หากว่ามีอาการปวดมากหรือบวมมาก ก็สามารถกินยาเพื่อบรรเทาได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปใน 5-7 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลายคนที่อยากมีผิวใต้ตาอ่อนเยาว์และสดใส ลองพิจารณาว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี เพราะการเลือกคลินิก และเลือกแพทย์ที่ชำนาญการฉีดใต้ตา เพราะว่าใต้ตามีจุดสำคัญหลายจุด หากแพทย์ไม่ชำนาญมากพออาจทำให้เกิดอันตรายได้