รู้จักกับปัญหาถุงใต้ตาและการฉีดถุงใต้ตา

ฉีดถุงใต้ตา

หากว่าเอ่ยถึงปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ถุงใต้ตาบวม เชื่อได้เลยว่านี่คงเป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนสูงวัยก็ตามที จริงอยู่ที่ว่าปัญหาถุงใต้ตาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากแต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีวันนี้เราขออาสาพาคุณมารู้จักกับปัญหาถุงใต้ตาและการฉีดถุงใต้ตา จะมีสิ่งใดบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน

 

สาเหตุที่ทำให้มีถุงใต้ตา

หลายคนอาจไม่รู้ว่าถุงใต้ตาแบ่งออกได้เป็น 2 แบบด้วยกัน คือถุงใต้ตาแท้และถุงใต้ตาเทียม

ถุงใต้ตาเทียม ถุงใต้ตาเทียมเกิดจากความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตและความผิดปกติของระบบน้ำเหลือง ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน รวมไปถึงของเหลวบริเวณผิวหนังใต้ตาจนทำให้ใต้ตาล่างบวมหรือนูนออกมานั่นเอง นอกจากนี้พฤติกรรมต่างๆ ของคนไข้เองก็เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาได้เช่นกัน บางคนมักขยี้ตาบ่อยๆ หรือร้องไห้บ่อยๆ นอกจากนี้ยังพักผ่อนไม่เพียงพอและใช้สายตามากเกินไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมสะสมที่ทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาได้ นอกจากนี้ปัญหาถุงใต้ตาเทียมยังอาจเกิดจากการแพ้สารต่างๆ จนกระทั่งทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบหรือบวมที่บริเวณใต้ตาได้นั่นเองอย่างไรก็ดี ปัญหาถุงใต้ตาเทียมเป็นแค่เพียงอาการชั่วคราวที่สามารถรักษาได้อย่างง่ายดายด้วยตัวของคุณเอง แค่เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมกว่าเดิม นอนหลับพักผ่อนให้พอเหมาะ ไม่เครียด ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสและพยายามประคบเย็นที่บริเวณรอบดวงตาให้บ่อยครั้งก็จะทำให้อาการดังกล่าวดีขึ้นได้

ฉีดถุงใต้ตา

 

ถุงใต้ตาแท้ ปัญหาถุงใต้ตาแท้ส่วนมากมักเกิดจากระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายที่ทำงานไม่ปกติ จนกระทั่งส่งผลให้ไขมันและของเหลวต่างๆ นั้นไหลมากองรวมกันที่บริเวณใต้ตามากจนเกินไป และทำให้ผิวหนังที่บริเวณใต้ตานูนขึ้น จนมีลักษณะเป็นถุงป่องหรือนูนที่บริเวณใต้ตานั่นเอง นอกจากนี้สาเหตุของถุงใต้ตายังเกิดจากอายุที่มากกว่าเดิม เนื่องจากว่าผิวหนังของมนุษย์เรานั้นจะเสื่อมสภาพและหย่อนยานไปตามกาลเวลา ส่งผลให้เนื้อเยื่อที่รองรับถุงไขมันใต้ตาอ่อนแรงและหย่อนตัวลงมา และจะยิ่งหย่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งถุงใต้ตาแท้นี้จะมีลักษณะเป็นถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อยนั่นเอง

ฉีดถุงใต้ตา

 

หลักการลดถุงใต้ตาเทียมด้วยตนเอง

อย่างไรก็ดีหลายๆ คนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้อาจจะเริ่มสงสัยแล้วใช่หรือไม่ว่าการรักษาถุงใต้ตาทำได้ด้วยตนเองหรือไม่ ซึ่งในกรณีที่เป็นถุงใต้ตาเทียม คนไข้สามารถรักษาได้ด้วยตนเองหากเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง เช่น การขยี้ตาบ่อยๆ การใช้สายตาหนักเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการดูซีรีย์ อ่านหนังสือ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือการเล่นสมาร์ทโฟนก็ตามที และคนไข้เองก็ควรเลือกดูแลและบำรุงรอบดวงตาด้วยวิธีที่เหมาะสม อันจะช่วยให้อาการของถุงใต้ตาเทียมดีขึ้นได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นงดการขยี้ตาแรงๆ พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือจะประคบดวงตาด้วยถุงชา สำลีชุบน้ำเกลือ หรือแตงกวาก็ได้ และอย่าลืมทาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์

 

หลักการลดถุงใต้ตาด้วยวิธีทางการแพทย์

อย่างไรก็ดีสำหรับปัญหาถุงใต้ตาแท้อาจไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้นด้วยตนเองได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือการรักษาทางการแพทย์ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1.ผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตาเป็นวิธีในการรักษาถุงใต้ตาที่ดีที่สุด อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ซึ่งจัดได้ว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย หรือถุงใต้ตาที่มีไขมันใต้ตามากหรือป่องนูนจนกระทั่งไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการอื่นๆ ซึ่งแพทย์จะผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาและหนังตาส่วนเกินออกไป หรือในบางกรณีแพทย์จะเอาออกเฉพาะไขมัน จากนั้นจะเย็บปิดแผลอย่างประณีตบรรจง

2.การฉีดสารเติมเต็ม อีกหนึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้แก่การฉีดสารเติมเต็มรอบๆ ถุงใต้ตา ซึ่งการฉีดถุงใต้ตาจะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตาเต็มอิ่มกว่าเดิม เรียบเนียนกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถลดขนาดของถุงใต้ตาได้อย่างชัดเจน ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มมีสองแบบได้แก่การฉีดฟิลเลอร์กลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด ที่ปลอดภัยสูงและสามารถสลายได้เอง โดยไม่ตกค้างในร่างกาย โดยผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 1 – 2 ปี หรือบางคนจะเลือกฉีดไขมันตนเองเข้าไปที่ใต้ดวงตาได้ หรือที่เรียกกันว่าฉีดไขมันสำหรับหน้าเด็ก ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมาก และยังเสี่ยงต่อการแพ้ที่น้อยกว่าเดิม อีกทั้งยังมีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะปลูกถ่ายติดและอยู่ได้ยาวนานทั้งชีวิต

ฉีดถุงใต้ตา

3.ดูดไขมัน สำหรับการดูดไขมัน เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยในการลดขนาดถุงใต้ตาได้ชัดเจนอย่างยิ่ง โดยจะเหมาะสมกับคนที่มีถุงไขมันใต้ตานูนออกมามากนั่นเอง ทว่าไม่มีปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย แพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดเปลือกตาแล้วจากนั้นจึงดูดไขมันออกมาในปริมาณที่เหมาะสม

4.ใช้คลื่นความถี่วิทยุ การใช้คลื่นความถี่วิทยุ หรือที่เรียกกันอย่างสั้นๆ ว่าคลื่น RF โดยนี่คือหนึ่งในเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จะช่วยในการสลายไขมันรวมถึงเซลลูไลต์ใต้ชั้นผิว พร้อมทั้งกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินให้เพิ่มขึ้น และจะช่วยให้ผิวกระชับและริ้วรอยแลดูตื้นขึ้นได้ โดยจะสามารถนำมาใช้ลดไขมันบริเวณถุงใต้ตาได้ไม่มากก็น้อย

5.ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ คลื่นอัลตร้าซาวด์ เป็นเทคโนโลยีในการกระชับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก โดยสามารถกระตุ้นให้ผิวหนังในชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับผิวให้เกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการลดไขมันบริเวณถุงใต้ตาได้บางส่วน เหมือนกับการรักษาถุงใต้ตาด้วยคลื่นความถี่วิทยุด้วยเช่นกัน

 

ถุงใต้ตาสามารถบวมข้างเดียวได้หรือไม่

สำหรับปัญหาถุงใต้ตาที่บวมข้างเดียวนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายต่อหลายสาเหตุ ได้แก่โรคภูมิแพ้ อาการติดเชื้อ หรือการเลือกใช้เครื่องสำอางและคอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สะอาด การสูบบุหรี่หรือการดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่เค็มจัดอันไปกระตุ้นให้เกิดอาการบวมน้ำ รวมถึงการรับแรงกระแทกหรืออาการบาดเจ็บในบริเวณใกล้เคียงกับดวงตา ซึ่งหลายๆ คนต่างก็ทราบกันดีว่าการรักษาอาการภูมิแพ้ให้ดีขึ้นจะช่วยลดอาการถุงใต้ตา ซึ่งการรักษาด้วยยาโรคภูมิแพ้ตามที่แพทย์สั่ง และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้จะเป็นการลดปัญหาถุงใต้ตาบวมข้างเดียวได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว

 

เหตุผลที่การฉีดถุงใต้ตาดีกว่าการผ่าตัดตา

การฉีดถุงใต้ตาดีกว่าการผ่าตัดดวงตาเนื่องจากว่าการเตรียมตัวจากการผ่าตัดต้องใช้รายละเอียดค่อนข้างมาก และจะต้องงดอาหารเสริมทุกชนิดหากว่าไม่แน่ใจในสรรพคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินซีและวิตามินอี น้ำมันตับปลา นอกจากนี้ยังต้องงดการแต่งหน้า ติดขนตาปลอม พร้อมเตรียมแว่นสำหรับสวมใส่หลังการผ่าตัด ในขณะที่การฉีดถุงใต้ตาแทบไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใดๆ เลย และระยะเวลาในการพักฟื้นก็น้อยอย่างยิ่ง

ฉีดถุงใต้ตา

อาจจะกล่าวได้ว่าการเลือกทำหัตถการไม่ว่าวิธีใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่จะต้องมีความใส่ใจและศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะทำหัตถการ เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกทำหัตถการของคุณนั้นจะตอบโจทย์มากที่สุด และช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่คุณกังวลใจได้อย่างแน่นอน