สาระน่ารู้เกี่ยวกับการฉีดถุงใต้ตาเบื้องตัน สำหรับคนที่กำลังจะฉีดฟิลเลอร์
อาจจะกล่าวได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ถุงใต้ตาเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าเห็นผลได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่หลายๆ คนต้องการฉีดถุงใต้ตาเพื่อให้ใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าเดิม อย่างไรก็ดีอาจมีเรื่องที่หลายๆ คนไม่รู้เกี่ยวกับการฉีดถุงใต้ดวงตาไม่มากก็น้อย มาพิจารณาพร้อมกันดีกว่าหรือไม่ว่าการฉีดถุงบริเวณใต้ตามีสาระน่ารู้อย่างไรบ้าง
ฉีดถุงใต้ตากับการแก้ปัญหาใต้ตาบวมจากภูมิแพ้
สำหรับปัญหาถุงใต้ตาเองก็เป็นปัญหาที่หลายๆ คนพบได้บ่อย และพบได้ตั้งแต่คนที่อายุน้อยไปจนถึงอายุมากเลยก็ว่าได้ โดยหลายๆ คนมักเริ่มมีถุงใต้ตาเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น และมีความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบดวงตา ลักษณะเบื้องต้นของถุงใต้ตาคือการเป็นถุงนูนๆ อันเนื่องมาจากไขมันที่อยู่บริเวณใต้ดวงตาได้ออกมาด้านบน ส่งผลให้ดวงตาดูเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย แก้ไขได้ด้วยการฉีดถุงใต้ตา อย่างไรก็ดีการมีใต้ตาสีคล้ำจากภูมิแพ้ก็อาจทำให้ใต้ตาบวมได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาใต้ตาบวมจากภูมิแพ้อาจไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดถุงใต้ตาอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ
ถุงใต้ตาเทียมกับการฉีดฟิลเลอร์
แท้จริงแล้วนั้นถุงใต้ตาเทียมเกิดจากการสะสมของเหลว รวมไปถึงไขมันที่บริเวณใต้ตาอันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วนั่นเอง นานวันเข้าก็ทำให้เกิดการบวมที่บริเวณใต้ตา หรือบางครั้งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ รวมไปถึงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือปัญหาถุงใต้ตาเทียมที่เกิดในบางคนอาจจะมาจากแพ้เครื่องสำอางก็ได้เช่นกัน สำหรับใครที่มีปัญหาถุงใต้ตาเทียม คุณอาจไม่จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ก็ได้ แต่ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเสียก่อน เช่น นอนพักผ่อนให้มาก ลดความเครียดหรือความกดดันของตนเอง ลดการสูบบุหรี่หรือการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้อย่าลืมล้างเครื่องสำอางให้สะอาด และเน้นที่บริเวณรอบดวงตา เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาเทียมได้แล้ว
การเตรียมตัวฉีดถุงใต้ตา
สำหรับการเตรียมตัวฉีดถุงใต้ตา มีเรื่องต้องทำความเข้าใจดังต่อไปนี้
1.ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด
การศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น คนไข้ควรศึกษาอย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียก่อนจะตัดสินใจในการทำ
2.เลือกคลินิกที่เหมาะสม
การเลือกคลินิกสำหรับฉีดฟิลเลอร์นั้น ควรพิจารณารายชื่อรวมไปถึงข้อมูลทางการแพทย์สำหรับเปรียบเทียบในราคาที่เหมาะสม และที่สำคัญที่สุดจะต้องดูรีวิวจากคนที่ใช้บริการจริงๆ เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ของการฉีดถุงใต้ตานั่นเอง
3.การงดยา
หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าหากตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะต้องงดยาหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาแอสไพริน ยาไอบูโปรเฟน ยาพอนด์แสตน เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนเข้ารับการทำหัตถการ และต้องสอบถามกับทางแพทย์อายุรกรรมที่รักษาโรคของคุณอยู่ก่อนด้วยว่าสามารถหยุดได้หรือไม่
4.งดการแวกซ์ผิว
สำหรับคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะต้องหลีกเลี่ยงการแวกซ์ผิว การขัดหน้า การมาส์กหน้า รวมถึงการดึงขนหรือโกนขนบริเวณนั้นเป็นเวลา 3 วันก่อนการทำหัตถการ
5.กรณีที่มีคอร์สนวดหน้า
สำหรับผู้ที่มีคอร์สนวดหน้าหรือทำหน้าด้วยเลเซอร์ ควรทำมาก่อน 3 วันก่อนจะมาฉีดฟิลเลอร์ เพราะไม่เช่นนั้นหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วจะต้องเว้นไปอีก 2 สัปดาห์นั่นเอง
6.งดกิจกรรมที่ทำให้โลหิตสูบฉีด
ในความเป็นจริงแล้วหากว่าใครที่มีนัดฉีดฟิลเลอร์ ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยกิจกรรมที่ว่าก็คือการเข้าซาวน่า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
7.การแต่งหน้าก่อนฉีดฟิลเลอร์
สำหรับการแต่งหน้าอาจเป็นที่สงสัยสำหรับหลายคนว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งคุณสามารถแต่งหน้ามาได้เช่นกัน ทว่าเมื่อถึงคลินิกจะมีการทำความสะอาดในบริเวณจุดที่จะฉีดถุงใต้ตาก่อนนั่นเอง
สิ่งที่ต้องปฏิบัติหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1.สังเกตอาการของตนเอง
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้ว หลายๆ คนอาจจะพบว่ามีอาการบวม แดง หรือเขียวช้ำในบริเวณจุดที่ฉีด ซึ่งปกติแล้วอาการเหล่านี้จะดีขึ้นใน 2-3 วัน แต่สำหรับใครที่หลังจาก 3 วันแล้วบวมกว่าเดิม ผิวหนังเปลี่ยนสี มีตุ่มหรือหนองที่แสดงให้เห็นถึงการอักเสบ แนะนำว่าควรติดต่อไปที่คลินิกซึ่งคุณทำหัตถการด้วยเพื่อประเมินอาการและรับยากินเพิ่ม
2.รับประทานยา
สำหรับใครที่แพทย์จ่ายยามาให้ ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจนหมด และไม่ควรหยุดยาเองเป็นอันขาด
3.หลีกเลี่ยงอากาศร้อน
สำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการฉีดฟิลเลอร์มา ควรอยู่แต่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิเย็นสบาย ไม่ร้อนจัดจนเกินไป และหากว่าจำเป็นก็ควรสวมหมวกหรือกางร่มกรณีที่ต้องไปอยู่ในที่อากาศร้อน เพราะอุณหภูมิที่สูงจะส่งผลเสียต่อฟิลเลอร์ที่เพิ่งฉีดมาได้
4.นอนหนุนหมอนสูงๆ
ในช่วงเวลา 3 คืนแรกให้นอนโดยใช้หมอนสำหรับหนุนศีรษะอย่างน้อยสองใบ เพื่อให้ศีรษะสูงกว่าระดับหน้าอก และที่สำคัญอย่านอนตะแคง เพราะว่าการนอนตะแคงจะทำให้ฟิลเลอร์ไหลได้ ทางที่ดีที่สุดควรใช้หมอนมาป้องกันใบหน้าทั้งซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการกดหรือการทับในบริเวณที่ฉีด
5.ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละสองลิตร
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยคุณควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตรเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หากกังวลใจว่าจะดื่มน้ำไม่เพียงพอ ควรมองหาขวดน้ำที่มีการบอกปริมาตรที่ข้างขวด
สิ่งที่ห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อห้ามหลายๆ ข้อที่ต้องปฏิบัติตามดังต่อไปนี้
1.ไม่ควรแตะหรือเกา รวมถึงกดนวดในจุดที่ฉีด ที่สำคัญไม่ควรปรับรูปทรงของฟิลเลอร์ด้วยตัวเอง
2.ไม่ประคบเย็นเพราะการประคบเย็นอาจส่งผลเสียต่อรูปทรงของฟิลเลอร์ได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนประคบเย็นทุกครั้ง
3.งดการทาครีมหนึ่งคืนในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ อย่างไรก็ดีคุณสามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
4.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หลังทำ 3 วัน เพราะการดื่มแอลกอฮอล์เป็นการทำให้เลือดสูบฉีดและทำให้ร่างกายร้อนกว่าปกติ ซึ่งอาจหมายความรวมไปถึงการออกกำลังกายหนักๆ การเข้าอบซาวนา การทำกับข้าวหน้าเตาร้อนๆ เป็นเวลานานอีกด้วย
5.งดการนวดหน้า เลเซอร์หน้า 14 วัน เนื่องจากการนวดหน้าและการเลเซอร์จะส่งผลกระทบต่อการฉีดฟิลเลอร์นั่นเอง แต่ในกรณีที่เป็นเลเซอร์ร้อน หรือเทอร์มาจ อาจต้องเว้นไว้อย่างน้อยหนึ่งเดือน
อาหารที่ต้องหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ดวงตา
หลายๆ คนอาจไม่ทราบว่าอาหารที่ต้องเลี่ยงหลังจากฉีดฟิลเลอร์มีหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ เช่นปิ้งย่าง ชาบูและหมูกระทะ นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่เผ็ดมากๆ อาหารหมักดอง รวมถึงนมวัว เพราะนมวัวจะไปกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้ ที่สำคัญคือต้องงดการกินอาหารจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เพราะว่ากรณีที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนในอาหาร อาจจะเข้าไปในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไว้และทำให้เกิดอาการอักเสบ ส่วนในกรณีที่หลายๆ คนติดบุหรี่ ควรงดสูบบุหรี่ไปเสียก่อน เพราะว่าในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด และทำให้แผลยุบช้า ทำให้ผลการรักษาหายช้ากว่าเดิม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง จะดีกว่าหรือไม่หากว่าคุณจะพยายามเลือกคลินิกที่ปลอดภัย มีแพทย์ที่ชำนาญการคอยให้คำปรึกษาทั้งก่อนจะฉีดฟิลเลอร์และคอยดูแลหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับตัวคนไข้นั่นเอง