ปัญหาถุงใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นถุงใต้ตาบวมหรือถุงใต้ตาหย่อนคล้อยล้วนแล้วแต่เป็นปัญหากวนใจของหลายต่อหลายคน พบได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และคนสูงวัย ซึ่งอย่างไรก็ดีแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ทว่าก็ทำให้เสียความมั่นใจในหลายต่อหลายด้าน ที่สำคัญยังทำให้หลายๆ คนกังวลใจอีกด้วย โดยการฉีดถุงใต้ตาถือเป็นหัตถการที่แก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้อย่างง่ายดาย โดยสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการฉีดถุงใต้ตานั้นมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน
เปลือกตาล่างบวมหรือนูน ใช่ถุงใต้ตาหรือไม่
ปัญหาถุงใต้ตาเป็นปัญหาจากถุงไขมันที่บริเวณเปลือกตาล่างซึ่งมีอาการบวมนูนออกมาจนหลายๆ คนเห็นได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณใต้ดวงตามีความหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยจนเห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้ามีความอ่อนล้า ไม่สดใสและเปล่งประกาย ที่สำคัญยังแก่กว่าวัย โดยหลายๆ คนที่มีปัญหาเปลือกตาล่างบวมหรือนูน ก็สามารถสรุปได้ว่าเป็นถุงใต้ตาด้วยกันทั้งสิ้น
การใช้วัตถุดิบทางธรรมชาติดีกว่าการฉีดถุงใต้ตาหรือไม่ อย่างไร
หากติดตามอ่านบทความหลายบทความในอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนอาจเห็นว่ามีการใช้วัตถุดิบทางธรรมชาติสำหรับรักษาถุงใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นการใช้มันฝรั่ง การใช้ถุงชาแช่เย็น การใช้แตงกวาและนมจืด ซึ่งส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบทางธรรมชาติที่ใช้ในการรักษาถุงใต้ตาจะมีสรรพคุณในการลดการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และอาการบวมแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแตงกวาที่สามารถลดอาการบวมได้ หรือถุงชาแช่เย็นที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต มันฝรั่งซึ่งมีทั้งน้ำ วิตามินเค วิตามินซีและวิตามินบีที่ช่วยลดการบวมของถุงใต้ตา อย่างไรก็ดีผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาจะต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นด้วยว่าการใช้วัตถุดิบทางธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยแก้ไขปัญหาได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น และสามารถแก้ไขได้เฉพาะปัญหาถุงใต้ตาเทียม เช่น อาการตาบวมจากการพักผ่อนน้อย หรือตาบวมจากการร้องไห้ เป็นต้น ซึ่งหากจะบอกว่าการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติดีกว่าการฉีดถุงใต้ตาก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เพราะในบางกรณีอย่างปัญหาถุงใต้ตาแท้นั้นสามารถรักษาได้เฉพาะการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม การดูดไขมันใต้ตา การผ่าตัดและการศัลยกรรม เป็นต้น
ตัดสินใจเลือกอะไรดีระหว่างผ่าตัดถุงใต้ตากับการฉีดสารเติมเต็ม
การรักษาถุงใต้ตาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคก่อนคือการผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา โดยถือว่าเป็นวิธีรักษาถุงใต้ตาที่ดีที่สุด อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ถาวร อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมอย่างมากสำหรับคนที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยจนไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มอื่นๆ ได้ ยิ่งในรายของผู้สูงวัย อาจพบว่าถุงใต้ตาของตนเองป่องนูน หากฉีดฟิลเลอร์อาจไม่เห็นผลที่ชัดเจน ในกรณีนี้แพทย์ก็จะทำการพิจารณาผ่าตัดถุงใต้ตาและหนังตาที่เกินออก หรือบางครั้งอาจเอาออกแค่เฉพาะไขมันเท่านั้น จากนั้นจึงเย็บปิดอย่างประณีตเพื่อความเป็นธรรมชาติ ในขณะที่การฉีดฟิลเลอร์จะเหมาะสมคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป การตัดสินใจเลือกจึงขึ้นอยู่กับขนาดถุงใต้ตาของคนไข้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่แพทย์จะพิจารณาร่วมด้วย เช่น อายุของผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด รวมถึงงบประมาณที่มี เป็นต้น
การใช้คลื่นรักษาถุงใต้ตาเหมาะสมมากน้อยเพียงใด
ในปัจจุบันนี้การรักษาถุงใต้ตาได้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยในหลายต่อหลายด้าน ทั้งการสลายไขมัน และเซลลูไลต์ใต้ชั้นผิว ที่สำคัญคลื่นความถี่นี้ก็ยังช่วยในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนรวมถึงอิลาสตินให้มากกว่าเดิม เติมเต็มการกระชับผิวและริ้วรอยให้ตื้นกว่าเดิมได้ ที่สำคัญยังลดการใช้ไขมันที่ถุงใต้ตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งคลื่นความถี่วิทยุนั้นหลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็น Thermage, Thermage CPT และ Thermage FLX เป็นต้น และนอกจากใช้คลื่นความถี่วิทยุแล้วก็ยังมีการใช้คลื่นอัลตราซาวต์ โดยเทคโนโลยีนี้จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีแห่งการกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ซึ่งคลื่นอัลตราซาวนด์มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ผิวหนังชั้น SMAS มีการหดตัวและกระชับ ทำให้ลดไขมันถุงใต้ตาได้ โดยคลื่นอัลตราซาวด์ที่นิยมใช้ได้แก่คลื่น Ulthera หรือ HIFU Ultraformer III อย่างไรก็ดีหลายๆ คนอาจสงสัยใช่หรือไม่ว่าการรักษาโดยใช้คลื่น หรือรักษาโดยการฉีดสารเติมเต็มดีกว่ากัน คำตอบคือการรักษาในทุกรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้เป็นหลัก หากว่าคนไข้กลัวเข็ม ก็สามารถใช้คลื่นสำหรับรักษาถุงใต้ตาได้
ทำความเข้าใจถุงใต้ตาก่อนฉีดถุงใต้ตา
ไขมันใต้ตาเป็นองค์ประกอบหลักที่อยู่ในเบ้าตา ซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยรองรับลูกตา ที่สำคัญยังช่วยในการป้องกันลูกตาให้ปลอดภัยจากการกระทบกระเทือนอีกด้วย ไขมันที่อยู่ในเบ้าตาจะถูกเรียกว่าถุงไขมัน โดยมีอยู่มากมายทั้งบริเวณเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง แต่อย่างไรก็ดีเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น เนื้อเยื่อก็ดี หรือกล้ามเนื้อใต้ตาก็ดี มีสิทธิ์ที่จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาทั้งสิ้น ส่งผลให้ถุงไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังถูกดันจนนูนและมองเห็นได้ชัดเจน โดยถุงไขมันที่ถูกดันให้นูนจะเรียกว่าถุงใต้ตา ลักษณะของถุงชนิดนี้จะมีความคล้ายคลึงกันในทุกคน โดยจะเป็นผิวหนังบริเวณใต้ตาที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย ทำให้เปลือกตาด้านล่างบวมและนูน ทำให้ใบหน้าเกิดความอ่อนล้าและไม่สดใส อีกทั้งยังแก่กว่าวัยจนทำให้หมดความมั่นใจเลยก็เป็นไปได้
เมื่อถุงใต้ตาคือไขมัน จะเติมไขมันเข้าไปดีหรือไม่
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในเบื้องต้นว่าถุงใต้ตาคือถุงไขมัน ดังนั้นเชื่อได้เลยว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยใช่หรือไม่ว่าจะเติมไขมันเข้าไปที่ถุงใต้ตาดีหรือไม่ อย่างไร โดยการเติมไขมันที่บริเวณหน้า จะเรียกว่าการฉีดไขมันหน้าเด็กนั่นเอง โดยเป็นการดูดไขมันจากบริเวณอื่นๆ ในร่างกายของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา สะโพก เมื่อได้ไขมันมาแล้วจึงนำเข้ากระบวนการการปั่นแยกเซลล์ไขมันบริสุทธิ์เพื่อฉีดรอบๆ ถุงใต้ตา ทำให้บริเวณใต้ตาหรือขอบตาล่างของคนไข้ดูเรียบเนียน สดใสกว่าเดิม อีกทั้งยังมีข้อดีคือสารไขมันที่นำมาเติมคือสารจากร่างกายของคนไข้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ้ ที่สำคัญนอกจากจะเติมที่ใต้ตาแล้ว คุณยังสามารถเติมที่ใบหน้าได้อีกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีผลลัพธ์ในการฉีดไขมันจะขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของคนไข้-แต่ละคนว่ามีโอกาสอยู่รอดมากน้อยเพียงใด และอาจมีอาการบวมช้ำราวๆ 7-10 วันอีกด้วย
หรือที่จริงแล้วฟิลเลอร์ตอบโจทย์ถุงใต้ตาดีที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดแบบชั่วคราวเพื่อรักษาถุงใต้ตา โดยจะเป็นชนิดที่มีความปลอดภัยสูงและที่สำคัญยังสามารถสลายได้เองโดยที่ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย สามารถเห็นผลลัพธ์หลังจากที่ฉีดถุงใต้ตาได้ในทันที และไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย จึงถือเป็นการฉีดสารเติมเต็มซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการรักษาถุงใต้ตานั่นเอง
เนื่องจากว่าถุงใต้ตาสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายต่อหลายสาเหตุด้วยกัน โดยมีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก และการฉีดถุงใต้ตาจะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตางดงาม เปล่งปลั่งและสดใสจนเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ดีไม่ว่าคุณจะผ่านการรักษาถุงใต้ตาแบบใดมาก็ตาม สิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือการดูแลผิวรอบดวงตาด้วยครีมบำรุงผิว พร้อมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและนอนพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ถุงใต้ตาก็จะโบกมือลาคุณไปได้อย่างง่ายดาย