ฉีดใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์ VS ไขมัน ต่างกันอย่างไร

การฉีดก็มีทั้งฉีดด้วยฟิลเลอร์และฉีดจากไขมันตัวเอง หลายคนก็อาจจะอยากทราบว่าฉีดใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์และไขมันมีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

ความแตกต่างระหว่างการฉีดใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์ กับไขมัน

การแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันนี้มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี โดยการฉีดเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมสูงและเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่การฉีดก็มีทั้งฉีดด้วยฟิลเลอร์และฉีดจากไขมันตัวเอง หลายคนก็อาจจะอยากทราบว่าฉีดใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์และไขมันมีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างที่ควรพิจารณา มาดูกัน

การฉีดใต้ตาคล้ำด้วยฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มประเภทหนึ่ง ในการฉีดแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจะใช้ปริมาณ 1-2 ซีซี โดยฟิลเลอร์จะมีอายุ 1-2 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล หลังจากนั้นจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยาก หากผ่านการประเมินจากคุณหมอแล้วสามารถฉีดได้ทันทีและเห็นผลทันทีหลังฉีดเช่นกัน ผลข้างเคียงหลังฉีดคือมีอาการบวมประมาณ 2-3 และจะยุบบวมจนกลับมาเป็นปกติใน 1-2 สัปดาห์ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องพักฟื้นหลังฉีด สำหรับข้อเสีย ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบางมาก เพราะฉะนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงมากหากไม่ได้ฉีดกับผู้เชี่ยวชาญ 

ฉีดใต้ตาคล้ำ

การฉีดใต้ตาคล้ำด้วยไขมัน

การฉีดด้วยไขมันมีข้อดีในเรื่องอาการแพ้หลังฉีด เพราะไขมันที่ไขมันนำมาจากร่างกายตัวเอง ฉะนั้นจึงไม่ใช่สาแปลกปลอมร่างกายจึงไม่ต่อต้าน ปกติแล้วไขมันที่ใช้จะถูกนำมาจากบริเวณหน้าท้องหรือต้นขาจะถูกฉีดเข้าไปให้สัมผัสกับเนื้อเยื่อมากที่สุด เพื่อที่ผิวจะได้เรียบเนียนเต่งตึง ร่องลึกตื้นขึ้น ใต้ตาจะดำคล้ำน้อยลง เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว 6 เดือนเซลล์ไขมันที่เหลืออยู่จะคงอยู่อย่างถาวร ในส่วนของข้อเสียคือมีขั้นตอนยุ่งยากมากกว่า เจ็บตัวหลายรอบเนื่องจากต้องดูดไขมันด้วย ฉีดแล้วมีอาการบวมหรือเขียวช้ำได้ จึงจำเป็นต้องฟื้น 1-2 สัปดาห์ เห็นผลช้ากว่าฉีดฟิลเลอร์และได้ผลเพียง 60-80% เท่านั้น

ฉีดใต้ตาคล้ำ

เนื่องจากเซลล์ไขมันสามารถสลายตัวไปได้บ้างตามปกติ แต่จะมากหรือน้อยก็ต่างกันไปแล้วแต่กรณีจะเห็นได้ว่าการฉีดใต้ตาคล้ำทั้ง 2 รูปแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ใครที่กำลังศึกษาข้อมูลในส่วนนี้กันอยู่ก็คาดว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้อย่าลืมว่าถึงแม้จะเป็นการฉีดแต่ก็สามารถเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเลือกวิธีการไหนหรือเลือกฉีดกับที่ใด ให้มองเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก