รวม 15 เรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดใต้ตา

ฉีดใต้ตาที่ไหนดี

ปัจจุบันไม่ว่าใครก็เลือกฉีดใต้ตาแทนที่การทาอายครีมหรือผ่าตัดแล้ว ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าการฉีดใต้ตาเป็นการเสริมสร้างความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างรวดเร็วที่สุด ประการสำคัญคือปราศจากแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้นนาน นอกจากนี้ยังเหมาะสมและตอบโจทย์คนที่อยากมีใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ดี หากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการฉีดใต้ตา และอยากรู้ว่าฉีดใต้ตาที่ไหนดี มาดูพร้อมๆ กันดีกว่าว่า ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดใต้ตามีสิ่งใดบ้าง

 

ความเข้าใจผิดที่  1 : สามารถรับประทานอะไรก็ได้ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์

ก่อนจะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ หรือค้นหาว่าฉีดใต้ตาที่ไหนดี คนไข้ควรดูแลตนเอง โดยงดการรับประทานวิตามินอี ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน เนื่องจากยาและวิตามินเหล่านี้ มีส่วนทำให้เกล็ดเลือดแข็งตัวช้า ทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น และส่งผลกระทบต่อการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอีกด้วย นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์เองก็ยังเป็นอันตรายอีกเช่นกันสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากแอลกอฮอล์มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดใต้ตา2

 

ความเข้าใจผิดที่  2 : สามารถออกกำลังกายได้อย่างปกติ

ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ควรงดการออกกำลังกายแบบหนักๆ หรือการเข้าซาวน่าก่อนทำการฉีดหนึ่งวัน เนื่องจากว่าอาจส่งผลให้เกิดอันตรายในหลายๆ ด้าน ก่อนจะค้นหาว่าฉีดใต้ตาที่ไหนดี ปกติแล้วฟิลเลอร์ไม่ถูกกับความร้อนในร่างกาย ดังนั้นจึงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลดความร้อนที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์บริเวณที่ต้องการฉีดอย่างน้อย 3 วัน เนื่องจากเลเซอร์เองก็มีส่วนกระตุ้นให้ผิวในบริเวณนั้นเกิดความร้อนได้อีกด้วย

 

ความเข้าใจผิดที่  3 : หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลายคนเข้าใจว่าการดื่มน้ำหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์จะไปละลายฟิลเลอร์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วคุณควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละสองลิตรจะดีที่สุด เพื่อให้ผิวดูชุ่มชื่นและอิ่มฟูมากกว่าเดิม ที่สำคัญที่สุดก็คือการพยายามมองหาตัวช่วยที่จะทำให้คุณดื่มน้ำได้อย่างมีวินัยมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กระติกน้ำขนาด 2 ลิตรที่มีการจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์อย่างแพร่หลาย 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดใต้ตา3

 

ความเข้าใจผิดที่  4 : สามารถนอนได้ทันทีหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ผู้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ควรทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์คือการฉีดของเหลวชนิดหนึ่งเข้าไปในร่างกาย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการนอนราบหลังจากฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง เนื่องจากอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ไหลย้อนกลับได้นั่นเอง ซึ่งไม่ว่าคลินิกฉีดใต้ตาที่ไหนดี ก็ย่อมแนะนำเช่นนี้

 

ความเข้าใจผิดที่  5 : สามารถทาครีมได้ตามปกติหลังจากฉีดฟิลเลอร์

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดของการฉีดฟิลเลอร์คือ คนไข้สามารถทาครีมได้ปกติ หลังจากเข้ารับการฉีดใต้ตา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผิวบริเวณใต้ตาเป็นผิวที่ควรพักฟื้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนกับฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปแล้ว  และที่สำคัญที่สุดคือการพยายามหลีกเลี่ยงการนวด เค้น คลึง บริเวณรอบดวงตา

ฉีดใต้ตาที่ไหนดี

 

ความเข้าใจผิดที่  6 : สามารถนวดหน้าได้ตามปกติ

สำหรับสิ่งที่คนไข้มักเข้าใจผิดเป็นประจำได้แก่ การนวดหน้าบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ทันทีหลังเข้ารับการทำหัตถการ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คุณควรงดการนวดหรือใช้มือสัมผัสใบหน้าบริเวณที่ฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์ผิดรูปหรือเสียทรง โดยคุณควรเลือกค้นหาด้วยว่าฉีดใต้ตาที่ไหนดี พร้อมค้นหาข้อมูลการดูแลตนเองหลังการฉีดฟิลเลอร์

 

ความเข้าใจผิดที่  7 : สามารถทำทรีทเมนต์ได้ตามปกติ

การทำทรีทเมนต์ถือเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ผ่านการฉีดฟิลเลอร์มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคุณสามารถทำทรีทเมนต์ได้ก็ต่อเมื่อผ่านช่วงเวลา 2 สัปดาห์หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์  เพราะการทำทรีทเมนต์อาจกระทบกระเทือนกับฟิลเลอร์บริเวณใต้ดวงตานั่นเอง

 

ความเข้าใจผิดที่  8 : ฉีดใต้ตาไม่เห็นผลในทันที

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดสำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือฉีดใต้ตาไม่เห็นผลในทันที เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วผู้รับบริการจะมีอาการบวมที่บริเวณใต้ตา แต่จะเห็นผลในทันทีหลังจากเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้รอยบวมอาจหายไปในเวลา 2-3 วัน ซึ่งรอยบวมสามารถยุบลงได้ และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ในทันที 2-3 สัปดาห์  คนไข้ควรค้นหาข้อมูลว่าฉีดใต้ตาที่ไหนดี

ฉีดใต้ตาที่ไหนดี

 

ความเข้าใจผิดที่  9 : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ถาวร

บางคนอาจคิดว่าการฉีดใต้ตาสามารถอยู่ได้ถาวร หรืออย่างน้อยๆ คือหลัก 10 ปี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การฉีดฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นาน 6 เดือนไปจนถึง 1 ปีเท่านั้น โดยบางยี่ห้อก็สามารถอยู่ได้ 8 เดือน ไปจนถึง 1 ปี หากว่าคนไข้มีการดูแลตนเองดี และลดพฤติกรรมอันไปทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในอากาศร้อน หรืออยู่กลางแจ้งบ่อยๆ รวมไปถึงทำเลเซอร์หน้าเป็นประจำ ก็สามารถอยู่ได้นานขึ้นกว่าเดิม 

 

ความเข้าใจผิดที่  10 : ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับคนที่มีร่องใต้ตา

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นการทำหัตถการที่เหมาะสมกับทุกคนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีปัญหารอบดวงตาแต่ไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด หรือคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของใบหน้าที่อ่อนเยาว์เร็วๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ซึ่งผู้ที่มีปัญหาร่องใต้ตา หรือไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่ต้องการลางาน รวมถึงคนที่ต้องการยกกระชับหน้าเป็นบางจุด และต้องการดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อีกเช่นกัน

 

ความเข้าใจผิดที่  11 : ตาแพนด้าไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์

คนไข้มักเข้าใจว่าฟิลเลอร์สามารถแก้ไขเฉพาะริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตาเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ไขตาแพนด้าได้เช่นกัน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ยกผิวให้ห่างจากหลอดเลือดใต้ผิวหนัง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นวิธีการที่หลายๆ คนยอมรับว่าสามารถแก้ไขปัญหาตาแพนด้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฉีดใต้ตาที่ไหนดี

 

ความเข้าใจผิดที่  12 : ฟิลเลอร์เหมาะกับทุกคน

หลายๆ คนมักคิดว่าการฉีดฟิลเลอร์เหมาะสมกับทุกคน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรเสี่ยงต่อการฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือดเองก็ไม่สามารถเข้ารับการทำหัตถการนี้ได้ ที่สำคัญควรตรวจสอบเสียก่อนด้วยว่าผู้เข้ารับการทำหัตถกรรมมีการแพ้สารไฮยาลูรอนิคหรือไม่ เนื่องจากผู้ที่แพ้สารเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

 

ความเข้าใจผิดที่  13 : ผิวใต้ตาควรใช้ฟิลเลอร์จำนวนมาก

สำหรับผู้ที่เข้าใจว่าการใช้ฟิลเลอร์สำหรับบริเวณรอบดวงตา ควรใช้ในปริมาณมากๆ ถือเป็นความคิดที่ผิด เนื่องจากว่าปริมาณการใช้ฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของคนไข้แต่ละคน บางคนมีปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นจำนวนมาก อาจต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่าปกติ แต่โดยพื้นฐานแล้วการใช้ฟิลเลอร์จะอยู่ที่ราวๆ 1-2 ซีซีเท่านั้น

เติมใต้ตา

 

ความเข้าใจผิดที่  14 : ฟิลเลอร์ไม่สามารถปรับโหงวเฮ้งได้

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดของหลายๆ คนก็คือ มักคิดว่าฟิลเลอร์ไม่สามารถปรับโหงวเฮ้งได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับได้ทุกรูปแบบและความต้องการ เหมาะสมกับการปรับลักษณะของผิวรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยในการเสริมสร้างความเชื่อสำหรับหลายๆ คน

 

ความเข้าใจผิดที่  15 : ฟิลเลอร์อันตราย

ความเข้าใจว่าฟิลเลอร์อันตรายถือเป็นความเชื่อที่ผิด ซึ่งแท้ที่จริงแล้วสารที่ใช้สำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสารที่อยู่ในผิวหนังและสามารถสลายไปได้ตามกาลเวลา เมื่อครบกำหนด 6-18 เดือน และไม่มีสารตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งในกรณีที่ไม่พอใจผลลัพธ์ คนไข้ก็สามารถแจ้งแพทย์ให้ฉีดสารไฮยาลูนิเดสเพื่อสลายฟิลเลอร์ออกไปได้

ฉีดใต้ตาที่ไหนดี

และนี่ก็คือความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดใต้ตา จะดีกว่าหรือไม่หากว่าคุณเลือกศึกษาหาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจว่าจะาฉีดใต้ตาที่ไหนดี เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจนคุณพึงพอใจในความงามของใบหน้าตนเอง