ข้อปฏิบัติที่ควรทำทั้งก่อนและหลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญมากที่ไม่ควรละเลย หากว่าต้องการผลลัพธ์ที่ดีก็จะต้องดูแลในเรื่องต่างๆ เพื่อให้สวยดั่งใจและคงอยู่ยาวนานถือว่าไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดเลย สำหรับใครที่สนใจอยากจะ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี แล้วละก็ ควรจะเรียนรู้และนำวิธีการทั้งก่อน-หลังดูแลแผลนำไปใช้ด้วย ดังนี้

 

ข้อปฏิบัติที่ควรทำก่อนเข้ารับการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

1.ควรมีการศึกษาข้อมูลของคลินิกนั้นๆว่าได้รับการเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ต้องมีใบอนุญาตให้เปิดเป็นสถานประกอบการ จะต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำหัตถการให้เท่านั้น รวมไปถึงการใช้ฟิลเลอร์ที่ดีมีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อลูกค้าเพื่อมั่นใจว่าจะได้ผลที่ดี และนอกจากนี้แล้วจะต้องเป็นคลินิกที่มีความสะอาด ปลอดเชื้ออีกด้วยนะ

2.สำหรับใครที่รับประทานยาหรือวิตามินบางชนิดควรจะงดทานก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการกระตุ้นและผลกระทบต่างๆเมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไป ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อเตรียมความพร้อมและประเมินวางแผนได้อย่างถูกต้อง และมีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

3.เนื่องจากการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะต้องฉีดที่บริเวณใบหน้านั่นก็คือรอบดวงตา ดังนั้นแล้วจึงควรงดทาครีมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น ครีมบำรุง ครีมผลัดเซลส์ผิว รวมไปถึงไม่ควรโกนและดึงขนบริเวณนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความระคายเคืองอันอาจจะส่งผลหลังจากฉีดได้อย่างมากเลยทีเดียว

4.ควรงดการนวดหน้าและเลเซอร์ผิวหน้าก่อนอย่างน้อย 3วัน เพราะไม่อย่างนั้นแล้วจะทำให้ผิวหน้ามีความอ่อนแอ บอบบางยิ่งกว่าเดิม จนทำให้เกิดปัญหาได้ในที่สุด

5.ควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมไปถึงอาหารหมักดอง เนื่องจากเครื่องดื่มและอาหารประเภทนี้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ที่จะทำให้ใบหน้าบวมได้ง่ายอย่างมาก เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้จึงควรงดไว้ก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตา

6.บางรายแพทย์อาจจะมีการพิจารณาให้รับประทานยาห้ามเลือดหรืออาจจะเป็นยาลดความบวม เนื่องจากสภาพร่างกายและผิวหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งนี้จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไป สาเหตุก็เพื่อลดอาการบวมและติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย

7.ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ควรนอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ มีความเต็มอิ่ม พร้อมกับการเสริมความงาม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ (Fliler)

การเสริมความงามด้วยการฉีดฟิลเลอร์ สำหรับผู้ที่สนใจก็ควรจะต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากทั้งนี้ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าเป็นแพทย์ตัวจริงหรือไม่ เพียงแค่เชครายชื่อในเว็บไซต์ของแพทยสภาและรูปตรงกับตัวจริงหรือไม่ นอกจากนี้แล้วเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมาในแบบที่พึงพอใจ ควรจะเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ ได้รับความพึงพอใจจากคนไข้ มีความปลอดภัยและสามารถให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ไว้ ตามรายละเอียดดังนี้

1.เมื่อปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนัดหมายวันเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเข้ามา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี แพทย์จะต้องมีการแสดงหรือแนะนำยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่จะนำมาฉีดอย่างชัดเจน รวมไปถึงการแจ้งว่าจะฉีดที่บริเวณไหนบ้างเพื่อทำความเข้าใจตรงกันอย่างถูกต้อง เติมเต็มริ้วรอยได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้จะต้องมีการแกะกล่องผลิตภัณฑ์ให้เห็นด้วยเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าฟิลเลอร์ที่นำมาใช้เป็นของแท้อย่างแน่นอน

2.หลังจากนั้นโดยปกติแล้วจะมีการประคบน้ำแข็งบริเวณใบหน้า และใต้ตาที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อเป็นการลดความเจ็บปวดเมื่อลงเข็มบนใบหน้า ซึ่งในเนื้อฟิลเลอร์จะผสมยาชาไว้ด้วยอย่แล้ว

3.เมื่อฉีดเสร็จซึ่งใช้เวลาไม่นานแต่อย่างใด อาจจะรู้สึกว่าใบหน้ามีความบวม แดงบ้างก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด ให้พักฟื้นสักระยะหนึ่งก่อนเพื่อให้ใบหน้าได้ฟื้นตัวจากนั้นแล้วจึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย

 

ข้อปฏิบัติที่ควรทำหลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

ถึงแม้ว่าจะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว ก็ยังไม่เสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่างไปซะทั้งหมด ซึ่งการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย และสำคัญมากเลยทีเดียว ซึ่งนำไปปฏิบัติตามได้ไม่ยากเลย

1.เนื่องจากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี สิ่งที่จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยนั่นก็คือ อาการบวมแดง มีความช้ำ ซึ่งไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใดเป็นอาหารปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และจะค่อยๆดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน เพราะฉะนั้นแล้วจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น การแกะ เกา แคะบริเวณใบหน้าและรอบดวงตา เพื่อไม่ให้อาการระคายเคืองลุกลาม และเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค อย่างไรก็ตามหากพบว่าอาการบวมแดงยังไม่ทุเลาลง ควรจะกลับมาปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกัน

2.เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ค่อนข้างมีความไวต่อแสง ดังนั้นแล้วหลังจากฉีด Filler ควรจะหลีกเลี่ยงความร้อนและหลักเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักต่างๆที่ทำให้เสียเหงื่ออย่างน้อยภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากฉีดเสร็จ อย่างเช่น การออกกำลังกาย การซาวน่า การตากแดด เป็นต้น แนะนำว่าควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิปกติ เพื่อให้ฟิลเลอร์ยังคงประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีและไม่เสื่อมสลายก่อนเวลาอันควร

3.ถือว่าเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังพอสมควรนั่นก็คือไม่ควรขยับผิวในจุดที่ฉีดบ่อยจนเกินไป ในช่วง 3 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจาก Filler เป็นสารเติมเต็มที่เป็นเนื้อเหลว หากขยับบ่อยอาจจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนได้ง่ายนั่นเอง

4.ควรทำการประคบเย็นด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น หรืออาจจะใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งก็ได้แล้วค่อยนำมาประคบที่บริเวณใต้ตา รอบดวงตา อย่างเบามือทั้งนี่ไม่ควรกดแรงเป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้แผลที่ฉีดมีความช้ำและบวมได้ง่ายมากยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับผ้าที่นำมาใช้ก็ต้องเป็นผ้าสะอาดเท่านั้นเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค

5.ถือว่าเป็นช่วงที่หลายคนจะต้องอดใจกันเสียหน่อย สำหรับใครที่ชอบดื่มและชอบทาน เพราะหลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี จะต้องงดรับประทานอาหารบางชนิดเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการบวม อย่างเช่น การงดเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลล์ทุกชนิด การงดรับประทานอาหารจำพวกหมักดอง งดทานอาหารที่มีรสเผ็ด งดทานอาหารที่มีความร้อนหรือต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆจำพวก ชาบู หมูกระทะ และนอกจากนี้แล้วก็ควรงดการสูบบุหรี่ด้วย

6.การดื่มน้ำเยอะๆถือว่าจะช่วยร่างกายฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ดีมากยิ่งขึ้น หลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ขอแนะนำว่าควรจะดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน โดยให้จิบน้ำในระหว่างวันเรื่อยๆ ข้อดีของการดื่มน้ำสะอาดคือจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวดี และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ยิ่งทำให้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาน่าพึงพอใจมากกว่าเดิม

 

สรุป

ถือว่าเป็นข้อมูลที่จะต้องมีประโยชน์ต่อผู้สนใจอยากจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากันอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้มีความพร้อมทั้งก่อนและหลังจากฉีด Filler ทำตามได้ง่ายๆรับรองได้เลยว่าทำให้การฉีดใต้ตาลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง มีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ใต้ตามีความอ่อนเยาว์และดูเต่งตึงมีความกระชับมากยิ่งขึ้น