เปรียบเทียบชัดๆ การเติมฟิลเลอร์ใต้ตากับการผ่าตัดถุงใต้ตา

filler ถุงใต้ตา

ปัญหาถุงใต้ตาถือเป็นปัญหาที่หลายๆ คนต้องเผชิญกัน ซึ่งปัญหานี้ย่อมสร้างความไม่มั่นใจให้ผู้ที่เจอได้ การเติม filler ถุงใต้ตา จัดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากไม่ต้องพักฟื้นร่างกายนานเกินไป และที่สำคัญยังราคาย่อมเยากว่าการผ่าตัด แต่ในขณะเดียวกันการผ่าตัดเองก็น่าสนใจเพราะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า ซึ่งเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับทั้งการผ่าตัดและการเติม filler ถุงใต้ตา  นั้นมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมกัน

 

การเติม filler ถุงใต้ตา   

สำหรับการเติม filler ถุงใต้ตา  จัดเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมมากกว่าวิธีอื่นๆ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา  ขอบตาแพนด้า ริ้วรอยรอบดวงตา และเบ้าตาลึกได้เป็นอย่างดี สารที่ใช้คือสารเติมเต็มที่จะทำให้ผิวบริเวณใต้ตาเรียบเนียนและอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

 

ฉีด filler ถุงใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาอะไร?

หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าการฉีด filler ถุงใต้ตาจะช่วยในการทดแทนเนื้อเยื่อ รวมไปถึงคอลลาเจนที่สลายตัวไป ส่งผลให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญยังเติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวให้เต่งตึงอีกครั้ง โดยการฉีด filler ถุงใต้ตาสามารถแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้หลายต่อหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาดำคล้ำ ขอบตาดำอันเกิดจากโรคภูมิแพ้ รวมไปถึงอายุที่มากขึ้น หรือบางคนที่มีปัญหาเบ้าตาลึกหรือตาโหล การฉีด filler ถุงใต้ตาก็ช่วยได้เช่นกัน นอกจากนี้ที่บางคนมีถุงใต้ตาก็เพราะว่าพักผ่อนน้อยหรือขยี้ตาแรงเกินไปอีกด้วย

filler ถุงใต้ตา

 

ข้อดีของการฉีด filler ถุงใต้ตา

สำหรับผู้ที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดีคือสามารถเห็นผลลัพธ์หลังจากที่ filler ถุงใต้ตา  ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือไม่ต้องพักฟื้นนานเกินไป นอกจากนี้ฟิลเลอร์ก็ยังสลายเองโดยธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างเป็นเวลานาน อาจจะกล่าวได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ตอบโจทย์ทุกคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาเลยทีเดียว

 

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

แม้ฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีข้อดีเพียงใด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีข้อเสียเลย เนื่องจากฟิลเลอร์จะสลายตัวเร็วเมื่อพบกับความร้อน หรือทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำซาวน่า  หรือการทำเลเซอร์ นอกจากนี้ระยะเวลาที่ผ่านไปเองก็ยังทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ ต้องกลับมาฉีดซ้ำอีกครั้งหนึ่งด้วยเช่นกัน หรือหากว่าโชคร้ายไปพบกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ก็อาจส่งผลให้เจอปัญหาผิวบวมหรือช้ำ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนอีกด้วย

 

ผู้ที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดแต่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากการเสริมความงามอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้คือคนที่มีถุงใต้ตา มีขอบตาที่ดำหรือคล้ำ มีปัญหาร่องใต้ตา บางคนที่ไม่ต้องการลางานหลายๆ วันก็ควรเลือกการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเช่นกัน ในขณะที่บางคนต้องการยกกระชับหน้าแค่เพียงบางจุด ฟิลเลอร์ก็สามารถตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี

filler ถุงใต้ตา

 

ผู้ที่ไม่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับคนที่ไม่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือคนที่ตั้งครรภ์อยู่และอยู่ในภาวะให้นมบุตร รวมไปถึงคนที่เลือดออกง่าย และแพ้สารไฮยาลูรอนิค

 

การผ่าตัดถุงใต้ตา

สำหรับการผ่าตัดถุงใต้ตา ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการให้ตนเองมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์กว่าเดิม สำหรับการผ่าตัดมีเรื่องน่ารู้ดังนี้

ถุงใต้ตามีการใช้อุปกรณ์สำหรับผ่าตัดสามแบบด้วยกัน

1.ใบมีด สำหรับอุปกรณ์อย่างแรกที่ได้รับความนิยมก็คือการใช้ใบมีด ซึ่งใบมีดเองก็มีการใช้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากราคาถูกและใช้งานง่ายดาย ข้อดีของใบมีดคือขอบแผลไม่ถูกทำลายด้วยความร้อน  อย่างไรก็ดีแพทย์บางท่านที่นิยมทำก็เพราะมีความเชื่อว่าแผลจะหายได้เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ดวงตาอาจจะบวมและช้ำนานกว่า

2.เลเซอร์ การใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ ถือเป็นการใช้สำหรับการผ่าตัด เนื่องจากระยะความลึกของบาดแผลไม่มาก รวมถึงความร้อนซึ่งอยู่ที่ขอบแผลทำให้ไม่มีเลือด การบวมช้ำจึงไม่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ดีแม้ว่าแพทย์บางท่านจะบอกว่าการใช้เลเซอร์จะทำให้แผลไม่บวมหลังจากที่ผ่าตัด แต่ข้อเท็จจริงที่หลายๆ คนรู้ก็คือ การใช้ใบมีดไฟฟ้ากับการใช้เลเซอร์ไม่ได้แตกต่างกันอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ

filler ถุงใต้ตา

3.ใบมีดไฟฟ้า สำหรับการใช้กระแสไฟฟ้าหรือคลื่นความร้อนหัวตัดขนาดเล็ก สามารถเลือกได้ในระดับมิลลิเมตรเลยทีเดียว อันจะส่งผลให้เกิดความแม่นยำหลังจากการทำงาน เนื่องจากว่าขณะที่ทำการตัดตัวใบมีดก็จะมีการจี้เพื่อหยุดเลือดไปด้วยนั่นเอง และหลังจากนี้ก็จะมีอาการบวมช้ำหลังผ่าตัดถุงใต้ตา ซึ่งฟื้นตัวเร็วและไม่มีอาการบวมมากเท่าที่ควร อย่างไรก็ดีการแก้ไขถุงใต้ตาสัมพันธ์กับความชำนาญของแพทย์

 

 แผลเป็นจากการผ่าตัดถุงใต้ตา

ส่วนใหญ่แล้วการผ่าตัดถุงใต้ตาจะทำผ่านด้านในของขอบตาล่าง ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดแบบซ่อนแผลและไม่ทิ้งร่องรอยในการผ่าตัดหรือร่องรอยแผลเป็นแต่อย่างใด โดยการผ่าตัดถุงใต้ตาแบบดั้งเดิมอาจจะทำให้ตาล่างปลิ้นและตาแบะออก หลายๆ คนอาจจะรู้จักกันในชื่อว่าตาแหกนั่นเอง โดยการผ่าตัดถุงใต้ตาแบบนี้จะต้องมีความชำนาญมากพอสมควร เนื่องจากว่ายากกว่าการเปิดผิวหนังแบบทั่วๆ ไป แต่ทว่าจะทำให้เกิดความสวยงามมากกว่าปกติ อีกทั้งยังมีภาวะแทรกซ้อนที่น้อยกว่าผ่าตัดถุงใต้ตาแบบเดิม

filler ถุงใต้ตา

 

การพักฟื้นหลังผ่าตัด

ส่วนใหญ่แล้วคนที่ได้รับการผ่าตัดแก้ไขถุงใต้ตา อาจจะต้องใช้เวลาพักฟื้นราวๆ 3 วัน เนื่องจากว่ามีอาการบวม อีกทั้งยังต้องประคบดวงตาด้วยความเย็นตลอดเวลาอีกด้วย แต่ทว่าแผลทั้งหมดอาจหายดีได้ในเวลาหนึ่งสัปดาห์เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอาการบวมช้ำหลังจากที่ผ่าตัดถุงใต้ตา ซึ่งจะหายสนิทก็ต่อเมื่อผ่านไปแล้ว  1 เดือน หากว่ามีการผ่าตัดอื่นๆ ซึ่งซับซ้อนอยู่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นรูปดวงจันทร์ซึ่งหล่นหรือย้อยลงมาก็อาจจะบวมนานกว่าเดิม เป็นต้น ซึ่งปกติแล้วคนที่ผ่านการผ่าตัดราวๆ 90 เปอร์เซ็นต์ แผลจะหายดีในเวลาสองสัปดาห์ ซึ่งแผลที่หายดีอาจมีอาการเขียวหรือบวมเล็กๆ น้อยๆ สามารถสังเกตเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ในบางกรณี อาการบวมช้ำหลังจากที่ผ่าตัดถุงใต้ตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำการผ่าตัดหลายๆ อย่างร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาที่ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด หรือแอสไพริน บางรายอาจมีอาการบวมช้ำมากหลังจากที่รับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด อันมีส่วนประกอบของวิตามินอีและน้ำมันปลานั่นเอง ปัจจัยต่อไปของอาการบวมช้ำที่เกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดถุงใต้ตา ซึ่งจะมีความแตกต่างกันก็คืออายุที่น้อยกว่าจะยิ่งหายเร็วหรือว่าฟื้นตัวเร็วกว่าคนที่มีอายุมาก

 

การดูแลตนเองหลังจากผ่าตัด

สำหรับคนที่ประคบดวงตาด้วยความเย็น รวมถึงการนอนยกหัวสูงบ่อยๆ ในช่วงเวลาสองวันหรือสี่วันแรก จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีอาการบวมช้ำหลังผ่าตัดถุงใต้ตาน้อยกว่าคนที่ไม่ดูแลตัวเอง นอกจากนี้การประคบตาหลังจากผ่าตัด ยังถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ต้องทำตลอด 48 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งในสองสัปดาห์แรก ควรงดการออกกำลังกาย การยกน้ำหนัก การวิดพื้น การห้อยศีรษะ และการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน

filler ถุงใต้ตา

และนี่ก็คือข้อเท็จจริงสำหรับหลายๆ คนที่ต้องการให้ถุงใต้ตาของคุณหมดไป จะดีกว่าหรือไม่หากว่าปัญหาถุงใต้ตาที่ลดลง จะทำให้คุณดูโดดเด่น อ่อนเยาว์ มั่นใจในทุกอิริยาบถ ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีสำหรับคนที่อยากเสริมสร้างบุคลิกของตนเองโดดเด่นขึ้นจนใครๆ ก็ออกปากทัก