เพิ่มความสวยให้กับตัวเองได้ทันใจด้วยเทคนิคการ เติมใต้ตา

เติมใต้ตา

ไม่ว่าใครต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ซึ่งนอกจากการใช้เสน่ห์สายตาแล้วนั้นการมีผิวบริเวณรอบดวงตาที่สดใส น่ามองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่ว่าในยุคปัจจุบันนี้ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต พฤติกรรมการพักผ่อนหรือว่าจะมาจากกรมพันธุ์ก็ตามจะเห็นได้ว่าหลายคนมีปัญหาที่เกี่ยวกับการมีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ดูอ่อนล้าและไม่สดใสน่ามองเลย อีกทั้งยังทำให้ดูแก่กว่าความเป็นจริง ทำให้แต่ละคนต่างกังวลใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าปัญหานี้จะหมดไปในทันทีหากได้รู้จักกับเติมใต้ตา นวัตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แก้ปัญหาได้ทันทีอย่างตรงจุด ช่วยในการเสริมความงานรวมไปถึงแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆได้อย่างดี การันตีเลยว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

เติมใต้ตา

 

มาทำความรู้จักกับการเติมผิวใต้ตาด้วยฟิลเลอร์

สำหรับใครที่มีความสงสัยว่าการเติมใต้ตา นั้นมีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้างนั้น ต้องบอกเลยล่ะว่า ฟิลเลอร์ คือสารตัวสำคัญที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดซึ่งเป็น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย และให้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดที่ดีมีความน่าพึงพอใจเป็นที่สุด สำหรับฟิลเลอร์จะช่วยเข้าไปเติมเต็มบริเวณชั้นผิวหนังที่มีความเหี่ยวย่น บอบบาง รวมไปถึงมีความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา ให้มีความเต่งตึงได้ทันใจ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนี้ถูกเติมเต็มจนทำให้ผิวที่เคยมีร่องลึกมีความตื้นมากกว่าเดิม มีความเรียบเนียนได้มากยิ่งขึ้น มั่นใจได้ว่าจะมีความปลอดภัยอย่างแน่นอนซึ่งสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดการตกค้างบนใบหน้าแต่อย่างใด ผิวบริเวณใต้ตาจะดูสดใส มีความชุ่มชื้นและไม่แห้งกร้านอย่างแน่นอน

 

การเติมเต็มผิวบริเวณใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง ?

การเติมใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้หลายด้าน ทั้งในเรื่องของความงามหรือการแก้ไขความบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นบริเวณรอบดวงตาก็ตาม เรียกได้ว่าสารฟิลเลอร์นำไปใช้ได้กับหลายๆคนและหลายๆกลุ่มเป้าหมาย งั้นมาดูกันว่าการเติมฟิลเลอร์จะเหมาะกับใครบ้างนะ

ผู้ที่มีเบ้าตาลึก มีเบ้าตาที่ดูโหล หากมองแล้วถือว่ามักจะทำให้ดูแก่กว่าอายุจริงไปมากเลยทีเดียว ใบหน้าโดยรวมดูโทรมและมีความเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา

ผู้ที่มีร่องใต้ตาลึกและเห็นได้ชัด ซึ่งลักษณะที่สามารถสังเกตุเห็นได้ง่ายเลยคือบริเวณผิวรอบดวงตาดูลึกและหมองคล้ำอย่างมาก ไม่มีความสดใสแต่อย่างใดและดูแก่ลงมาก

เติมใต้ตา

ผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ทั้งนี้มักจะมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ชอบขยี้ตา การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ สังเกตุเห็นได้ง่ายเลยคือผิวรอบดวงตาที่นอกจากจะมีความเหี่ยวย่นแล้วทำมีผิวที่ไม่เรียบเนียนอีกด้วยนะ

ผู้ที่ขอบตาดำคล้ำ ทั้งนี้สาเหตุที่เจอมักจะมาจากกรรมพันธุ์ อาการของโรคภูมิแพ้และพฤติกรรมที่ชอบขยี้ตาจนติดเป็นนิสัยจนทำให้มีความหมองคล้ำ ดำและเหี่ยวย่นได้ในที่สุด

 

ปัญหาแบบไหนที่ไม่เหมาะกับการเติมใต้ตา

สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวบริเวณรอบดวงตา เช่น ผิวมีความเหี่ยวย่น ริ้วรอย ความหมองคล้ำ เป็นต้น การันตีได้เลยว่าการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตาจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน จากผิวที่ดูขาดความชุ่มชื้นจะกลับมาชุ่มชื่นได้ในทันทีเลยทันตาเห็น อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาก็ต้องบอกก่อนว่าสามารถฉีดฟิลเลอร์ช่วยได้เช่นกัน

แต่ในบางรายซึ่งมีความแตกต่างคืออาจมีไขมันที่บริเวณถุงใต้ตาเยอะจนเกินไป จนทำให้มีลักษณะของก้อนไขมันนูนออกมา รวมไปถึงบางรายที่มีความหย่อนคล้อยของถุงใต้ตาร่วมด้วย ก็ควรจะต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนในการประเมินหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีความน่าประทับใจและมีความปลอดภัยด้วยเช่นกัน

เติมใต้ตา

แต่ถ้าหากว่ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีด เติมใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์ที่บริเวณถุงใต้ตาแล้วละก็ ต้องบอกก่อนเลยว่าหากต้องการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณถุงใต้ตาเพื่อทำให้ปัญหาในส่วนนี้มีขนาดที่เล็กลง มีความเรียบเนียนและแทนที่ด้วยความสดใสเปล่งประกายแล้วก็ คงต้องบอกว่าอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่นัก ซึ่งวิธีที่อยากจะแนะนำคือการดูดถุงใต้ตา ดูจะเหมาะสมมากกว่า เพราะจะช่วยให้ถุงใต้ตามีขนาดเล็กลงได้ คือการรักษาที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนอื่นใดเข้ามา

 

ควรฉีดฟิลเลอร์กี่ครั้ง และปริมาณเท่าไหร่ดี?

โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตา มักจะใช้ประมาณครั้งละ 1-2 cc ซึ่งแพทย์จะทำการประเมินในแต่ละเคสว่ามีความจำเป็นต้องใช้ปริมาณของ Filler มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญสุดคือจะต้องมีการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งถ้าหากว่าใช้ฟิลเลอร์เยอะมากจนเกินไปก็จะทำให้ผิวหนังของเรายืดขยายออกมามากจนเกินไป จนอาจทำให้ผิวหนังยืดยานได้ในที่สุด ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าใช้ปริมาณที่น้อยมากจนเกินไปก็แทบจะไม่เห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงเลย เพราะฉะนั้นหากต้องการฉีดที่บริเวณใต้ตาแล้วละก็ควรจะเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมีความเหมาะสมในแต่ละเคสและมีความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่าแล้วต้องฉีด เติมใต้ตา กี่ครั้งถึงจะเห็นผล? ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนว่าจะตอบสนองต่อฟิลเลอร์ได้รวดเร็วมากแค่ไหน โดยฟิลเลอร์จะมีประสิทธิภาพในการคงอยู่ที่ผิวรอบดวงตาได้นานกว่า1-2 ปีเชียวนะและจะสลายเองไปตามธรรมชาติ มั่นใจว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน

เติมใต้ตา

 

Filler ฉีดใต้ตาอันตรายมากแค่ไหน?

ก่อนอื่นต้องบอกรายละเอียดก่อนว่า ฟิลเลอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและนำมาใช้ในคลินิกรวมไปถึงสถานเสริมความงามหลายแห่ง การใช้ Filler ที่มีมาตรฐานได้รับรองสินค้าคุณภาพจากองค์กรอาหารและยา (อย.)เรียกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว จะมีความปลอดภัยต่อผิวหน้าและผิวบริเวณรอบดวงตาอย่างแน่นอน และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สังเกตุได้ง่ายเลยคือฟิลเลอร์ที่ดีจะเกลี่ยเข้าไปบริเวณจุดที่ฉีดได้ง่ายไม่มีการจับตัวกันเป็นก้อน อีกทั้งเมื่อผ่านไปแล้วจะสลายไปเองตามธรรมชาติเรียกได้ว่าไม่มีสารตกค้างให้กังวลใจแต่อย่างใดเลย

เติมใต้ตา

ในขณะเดียวกันยังมีฟิลเลอร์อีกสองประเภทที่ไม่แนะนำให้ใช้สักเท่าไหร่นัก นั่นก็คือฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวร ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปในบริเวณ เติมใต้ตา ก็จะสามารถเติมเต็มในจุดที่ต้องการอย่างเช่น ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ริมฝีปาก เป็นต้น แล้วทำให้ดูเต็มตื้นและเรียบเนียนขึ้นได้ แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วฟิลเลอร์ประเภทนี้จะค่อนข้างสลายตัวได้ช้า ต้องใช้ระยะเวลานานสักหน่อยซึ่งสารประเภทนี้หากอยู่บนใบหน้านานเกินไป ก็อาจส่งผลเสียได้มากกว่าผลดีนะ และยังมีFiller อีกประเภทที่ต้องหลีกเลี่ยงไว้อย่างยิ่งเลยคือ ฟิลเลอร์แบบถาวรซึ่งอยู่ในรูปแบบของพาราฟินและซิลิโคน ถ้าหากว่าฉีด filler ถุงใต้ตา เข้าไปที่แล้วละก็จะทำให้เกิดผลเสียอย่างแน่นอน เพราะสารพวกนี้ไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติอีกทั้งยังจับตัวเป็นก้อน สลายไปได้ยากหากลุกลามก็จะทำให้ผิวบริเวณนั้นอักเสบและมีปัญหาได้ในที่สุด

ข้อมูลเหล่านี้จึงถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะทำให้คุณฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่สวยดั่งใจตามต้องการแน่นอน