เหตุผลที่การฉีดถุงใต้ตาคือคำตอบของหลายๆ คน

ปัญหาถุงใต้ตาเป็นปัญหาที่รบกวนใจของหลายๆ คนมาเป็นเวลายาวนาน ยิ่งหากว่าใครที่อายุมากขึ้น ถุงใต้ตาก็เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากแน่ใจว่าการฉีดถุงใต้ตามีสิ่งใดบ้างที่ต้องคำนึงถึง และต้องการศึกษาเกี่ยวกับการรักษาถุงใต้ตาให้ละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม มาดูพร้อมๆ กันดีกว่าหรือไม่ว่าการฉีดถุงใต้ตามีความน่าสนใจอย่างไร และเพราะอะไรหัตถการวิธีนี้คือคำตอบสำหรับหลายๆ คนอีกด้วย

 

การฉีดถุงใต้ตากับการผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา

หากว่าเอ่ยถึงการฉีดถุงใต้ตาและการผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนย่อมเคยได้ยินวิธีการรักษาสองวิธีนี้อย่างแน่นอน โดยการฉีดถุงใต้ตาและการผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตานั้น เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีสำหรับคนมีปัญหาถุงใต้ตา โดยการทำศัลยกรรมจะมีรายละเอียดที่มากกว่าอยู่พอสมควร และคนไข้ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจและการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้แพทย์ได้ทำการตัดสินใจในการเลือกเทคนิคสำหรับผ่าตัดซึ่งเหมาะสมกับคนไข้แต่ละกรณีมากที่สุด ส่งผลให้ผลลัพธ์ในการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน คนไข้หลายคนต้องการศัลยกรรมถุงใต้ตา ควรศึกษาความสำคัญของการผ่าตัดก่อนทำศัลยกรรม เพราะการผ่าตัดหนังตาล่างหรือถุงใต้ตาจะต้องวางแผนการรักษาให้ละเอียดถี่ถ้วน หากว่าวางแผนการรักษาได้ไม่ดีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่นอาการตาแหก อาการตาปลิ้น ทำให้คนไข้เสียใจ ไม่มั่นใจในการออกจากบ้าน รวมถึงเสียบุคลิกอีกด้วย ผลเสียที่ตามมามากกว่านี้คือทำให้เกิดแผลที่กระจกตาหรือตาแห้งก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีการฉีดถุงใต้ตาแม้มีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัด แต่ก็ต้องเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ดวงตานั่นเอง

 

ฉีดใต้ตากับจักษุแพทย์จำเป็นหรือไม่

หลายๆ คนคงพอรู้อยู่แล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณรอบดวงตาเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ เนื่องจากว่าบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมากกว่าจุดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเส้นเลือดจำนวนมาก หากแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่มีความชำนาญโครงสร้างของรอบๆ ดวงตา อาจส่งผลกระทบสำหรับคนไข้ได้ สำหรับคนไข้ที่มีความกังวลเป็นพิเศษอาจเลือกฉีดฟิลเลอร์กับจักษุแพทย์ก็ได้เช่นกัน เนื่องจากว่าจักษุแพทย์เฉพาะทางจะเข้าใจได้เป็นอย่างดีถึงกายวิภาครอบดวงตา ทำให้การฉีดใต้ตามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

ฉีดฟิลเลอร์ทับลงไปแก้ไขการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนดีหรือไม่

สำหรับเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ทับเพื่อแก้ไขในกรณีที่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน จะสามารถแก้ไขในกรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งด้วยวิธีการนี้หลังจากฉีดอาจดูเรียบเนียนดีแต่ทว่าในช่วงเวลา 2 -3 เดือนก็มีโอกาสที่จะปูดเป็นก้อนขึ้นมาได้อีก หรือบางคนจะเลือกขูดฟิลเลอร์ออกก็ได้เช่นกัน แต่ในกรณีของการขูดฟิลเลอร์จะเน้นไปที่ฟิลเลอร์ก้อนใหญ่และแข็ง แพทย์จะทำการเจาะให้เรียบร้อยก่อนแล้วทำการขูดออกได้ แต่หากว่ามีก้อนขนาดใหญ่มาก อาจต้องทำการกรีดเพื่อเปิดแผลและตัดออกในท้ายที่สุด แต่จะใช้วิธีการใดย่อมขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนมากหรือน้อยเพียงใด ในกรณีของการแก้ไข ควรให้แพทย์ทำการประเมินก่อนจึงจะดีที่สุด และต้องลองสัมผัสของจริงสำหรับการประเมิน คนไข้ที่ต้องการส่งรูปมาให้แพทย์ประเมินในกรณีแก้ไขไม่สามารถทำได้

 

จริงหรือไม่ที่ฟิลเลอร์ทำให้ตาบอด

หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวคราวบางคนที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดเกิดได้หลายสาเหตุ บางเคสฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกแต่กลับตาบอด ทั้งนี้ก็เพราะว่าใบหน้าของมนุษย์นั้นมีเส้นเลือดอยู่จำนวนมาก และแต่ละเส้นก็มีการเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยมีทั้งเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งอาจส่งผลให้ตาบอดได้คือการฉีดเข้าไปที่เส้นเลือดแดง ทั้งนี้ก็เพราะว่าเส้นเลือดแดงเป็นเส้นเลือดที่มีแรงดันจากการเต้นของหัวใจ อีกทั้งยังเป็นการนำเลือดดีไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ บนใบหน้า เมื่อมีก้อนฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดแดง ก็ย่อมทำให้เส้นเลือดอุดตัน ขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้อวัยวะเหล่านั้นตายในที่สุด สำหรับกรณีตาบอดเกิดขึ้นจากการที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่นำเลือดมาเลี้ยงอวัยวะในลูกตาถูกฟิลเลอร์อุดตัน มีชื่อว่า Central retinal artery หากเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะในลูกตาได้ก็ทำให้ตาบอด อย่างไรก็ดีหากเกิดภาวะนี้แล้วถือเป็นอันตราย ต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วนใน 90 นาทีหลังจากการอุดตัน หากว่าปล่อยทิ้งไว้นานกว่านั้น เซลล์จอประสาทจะตายแบบถาวรอีกด้วย

 

จุดเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์อันจะทำให้ตาบอด

บริเวณต่างๆ บนใบหน้าถือเป็นจุดเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์แล้วส่งผลกระทบให้ตาบอด ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก จมูก ร่องแก้ม และใต้ตา ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเส้นเลือดสามารถเชื่อมต่อถึงกันนั่นเอง หากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดแดงบนใบหน้าแล้ว ก็มีโอกาสที่จะตาบอดด้วยกันทั้งสิ้น แต่จุดเสี่ยงมากที่สุดได้แก่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยในงานวิจัยพบว่าการฉีดไขมันมีโอกาสเกิดภาวะตาบอดมากกว่าการฉีดกรดไฮยาลูรอนิค ซึ่งแพทย์ที่ชำนาญจะเน้นการใช้เข็มปลายทู่สำหรับฉีดใต้ตาแทนเพื่อลดความเสี่ยง เมื่อบวกกับเทคนิคและความชำนาญของแพทย์ในการฉีดใต้ตา ก็ทำให้การฉีดถุงใต้ตานั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

ขั้นตอนการประเมินก่อนทำหัตถการ

การประเมินก่อนทำหัตถการฉีดถุงใต้ตาถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยแพทย์จะให้คนไข้แสดงออกทางสีหน้าและทางอารมณ์ เพื่อสำรวจในเบื้องต้นว่ามีริ้วรอยบริเวณใดบ้าง และทำการลดริ้วรอยในจุดต่างๆ อย่างเหมาะสม ในขั้นตอนนี้เองจะรวมไปถึงการสังเกตเกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อในการทำสีหน้าและท่าทางต่างๆ ว่ามีลักษณะเบื้องต้นอย่างไรบ้าง เนื่องจากความสวยงามไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทำหน้าเฉยๆ เท่านั้น หากแต่ยังจะต้องดูดีที่สุดเมื่อแสดงอารมณ์อีกด้วย

 

ชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมก็ส่งผลเสียได้

หลายๆ คนที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์มักเข้าใจว่าหากเป็นฟิลเลอร์แท้ก็สามารถฉีดได้อย่างสบายใจหายห่วง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ก็ต้องเหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขด้วยเช่นกัน หากชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขก็อาจทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ เพราะฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน บางรุ่นเนื้อละเอียด บางรุ่นมีน้ำหนักโมเลกุลสูง หากว่าแพทย์ที่ทำหัตถการเข้าใจฟิลเลอร์แต่ละตัวก็สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม กับผิวของคนไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณดวงตาเป็นบริเวณที่มีการแสดงอารมณ์มาก หากเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้

 

จะดีกว่าหรือไม่หากว่าฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ชำนาญ

หลายคนที่อยากฉีดฟิลเลอร์คงจะคิดหนักแล้วใช่หรือไม่ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกใดและแพทย์ท่านใด เนื่องจากในกรณีที่เลือกไม่ถูกต้องก็อาจทำให้เกิดอันตรายหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาการตาบอด  ฟิลเลอร์แข็งเป็นก้อน หรือเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นต้น

จะดีกว่าหรือไม่หากว่าคุณจะเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ชำนาญการ พร้อมทั้งศึกษาเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ควรเปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับหัตถการแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดไขมัน การผ่าตัดถุงใต้ตา ซึ่งในทุกการรักษามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด